ดอลลาร์แข็งค่าหลังเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงาน ขณะจับตาประชุมสุดยอด EU

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 17, 2020 00:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงในวันนี้

นักลงทุนจับตาการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรป (EU) ในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อลงมติในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรในการกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนให้ฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการณ์โควิด-19

ณ เวลา 00.28 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.30% สู่ระดับ 107.24 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.15% สู่ระดับ 122.16 เยน และร่วงลง 0.16% สู่ระดับ 1.1390 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.14% สู่ระดับ 96.21

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 1.3 ล้านรายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.25 ล้านราย

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันนี้ ต่ำกว่าที่มีการรายงานในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับ 1.31 ล้านราย โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในวันนี้แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์สู่ระดับ 6.9 ล้านรายในช่วงปลายเดือนมี.ค.

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านรายติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 16 แม้ว่ารัฐต่างๆได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และได้เปิดเศรษฐกิจครั้งใหม่

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ โดยปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 วัน ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงเกินคาด แม้มีการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่ง และตัวเลขผลประกอบการที่สดใสของมอร์แกน สแตนลีย์

ส่วนยูโรไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ซึ่ง ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินในการซื้อพันธบัตร

ทั้งนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

นอกจากนี้ ECB มีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมิ.ย.2564


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ