ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ปอนด์อ่อนเทียบดอลล์ กังวลอียู-อังกฤษขัดแย้งข้อตกลง Brexit

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 11, 2020 07:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อความขัดแย้งระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษเกี่ยวกับข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าการคาดการณ์

เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2798 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2989 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1824 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1808 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7266 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7270 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.11 เยน จากระดับ 106.21 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9100 ฟรังก์ จากระดับ 0.9125 ฟรังก์ แต่เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3178 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3163 ดอลลาร์แคนาดา

เงินปอนด์ได้รับแรงกดดันจากความขัดแย้งระหว่าง EU และอังกฤษ โดย EU ไม่พอใจที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กำลังผลักดันร่างกฎหมาย Internal Market Bill ให้ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาอังกฤษ แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาที่ขัดต่อข้อตกลง Brexit ที่อังกฤษได้ทำไว้กับ EU ก่อนหน้านี้

ทางด้านนายมารอส เซฟโควิช รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้จัดการเจรจากับนายไมเคิล โกฟ รัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีอังกฤษ ที่กรุงลอนดอน ขณะที่นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าผู้แทนการเจรจาการค้าฝ่าย EU ทำการเจรจากับนายเดวิด ฟรอส ผู้แทนการเจรจาฝ่ายอังกฤษ

หากการเจรจาระหว่าง EU และอังกฤษไม่ประสบความสำเร็จ ทาง EU ก็อาจจะพิจารณายื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้มีการลงโทษอังกฤษ

ทั้งนี้ อังกฤษและ EU จะต้องบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนสิ้นปีนี้ มิฉะนั้นอังกฤษจะแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจำนวน 884,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 850,000 ราย ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 93,000 ราย สู่ระดับ 13.385 ล้านราย

ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.35 ล้านล้านยูโร

ทั้งนี้ ECB ระบุว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบัน หรือต่ำกว่าระดับดังกล่าว จนกว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ ECB ซึ่งระบุให้ "อยู่ใกล้ แต่ไม่เกิน 2%"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ