ดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนขายทำกำไร หลังดีดตัวนิวไฮ 2 เดือน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 28, 2020 20:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรดอลลาร์ หลังจากดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนก่อนหน้านี้

ณ เวลา 20.24 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.16% สู่ระดับ 105.43 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.15% สู่ระดับ 122.99 เยน และดีดตัวขึ้น 0.32% สู่ระดับ 1.1670 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ลบ 0.44% สู่ระดับ 94.23 หลังแตะระดับ 94.745 ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน

นักลงทุนจับตาการดีเบตรอบแรกระหว่างคู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งได้แก่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต

การดีเบตจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพุธ เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย โดยจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านทางสถานีโทรทัศน์ CNN และการดีเบตจะใช้เวลารวม 90 นาที ซึ่งผู้เข้าดีเบตจะต้องแสดงวิสัยทัศน์ใน 6 หัวข้อ ได้แก่ ประวัติของทรัมป์และไบเดน, ศาลฏีกาสหรัฐ, โควิด-19, เศรษฐกิจ, เชื้อชาติและความรุนแรงในเมืองต่างๆของสหรัฐ รวมทั้งความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการเลือกตั้ง โดยแต่ละหัวข้อจะใช้เวลาอภิปราย 15 นาที

สำหรับการดีเบตรอบแรกนี้ ตัวแทนของทรัมป์และไบเดนเห็นพ้องกันว่าผู้อภิปรายทั้งสองจะไม่มีการจับมือทักทายกันก่อนการดีเบตตามธรรมเนียมปฏิบัติแต่อย่างใด อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ รวมทั้งจะไม่มีการเอาข้อศอกชนกันด้วย ส่วนการยืนบนเวทีนั้น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า ทรัมป์จะใช้โพเดียมฝั่งขวาของเวที ส่วนไบเดนจะใช้โพเดียมฝั่งซ้าย และผู้เข้าชมการดีเบตจะถูกจำกัดเหลือเพียง 60-70 คน จากเดิมที่มีจำนวน 900-1,200 คน และทุกคนจะต้องมีผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นลบ

ส่วนในวันที่ 7 ต.ค.จะเป็นการดีเบตกันระหว่างนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน และนางคามาลา แฮร์ริส ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต

นอกจากนี้ วันที่ 15 ต.ค.จะเป็นการดีเบตรอบ 2 ระหว่างทรัมป์และไบเดน ส่วนการดีเบตรอบ 3 ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของทั้ง 2 คนจะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค. เพื่อให้ชาวอเมริกันทำการตัดสินใจครั้งสุดท้ายก่อนไปหย่อนบัตรลงหีบเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทรัมป์เสียเปรียบไบเดนทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ และเรื่องโควิด-19 ที่ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูเหมือนทรัมป์ก็รู้ตัวว่าเพลี่ยงพล้ำในประเด็นดังกล่าว

ล่าสุด ทรัมป์ปฏิเสธที่จะรับปากว่า การถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่น หากเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย. โดยทรัมป์คัดค้านการลงคะแนนเสียงผ่านทางระบบไปรษณีย์ ซึ่งเขาอ้างว่ามีการโกงกันได้ง่าย

ขณะนี้ผลสำรวจของสำนักโพลล์ต่างๆล้วนฟันธงว่าไบเดนกำลังมีคะแนนนำทรัมป์ แต่การที่สหรัฐตัดสินผู้ชนะจากคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ไม่ใช่คะแนนดิบจากผู้ลงคะแนนทั่วประเทศ (popular vote) ก็อาจทำให้ทรัมป์สร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้งเหมือนที่เคยทำไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ