ดอลลาร์อ่อนค่าลงเทียบสกุลเงินหลักในวันนี้ หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่สอดคล้องคาดการณ์ และลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 21.10 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์อ่อนค่า 0.08% สู่ระดับ 108.36 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.05% สู่ระดับ 129.11 เยน และดีดตัวขึ้น 0.13% สู่ระดับ 1.191 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.09% สู่ระดับ 91.87
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ดีดตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 1.7% ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2563 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนม.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และ 1.7% เมื่อเทียบรายปี
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะลงมติต่อร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ เพื่อเยียวยาชาวอเมริกันและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
หากร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีการส่งต่อไปยังประธานาธิบดีโจ ไบเดนเพื่อลงนามรับรองเป็นกฎหมายก่อนวันที่ 14 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง
ทางด้านนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของปธน.ไบเดนจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีทรัพยากรที่เพียงพอในการผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจะทำให้การจ้างงานของสหรัฐกลับสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ภายในปีหน้า
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 16-17 มี.ค. เพื่อดูท่าทีของเฟดต่อแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ