ดอลลาร์แข็งค่าวันที่ 2 จากอานิสงส์แรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday August 17, 2021 21:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลักเป็นวันที่ 2 โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวทะลุระดับ 93 ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองในอัฟกานิสถาน, การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และการที่จีนคุมเข้มกฎระเบียบในบริษัทกลุ่มเทคโนโลยี

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ลดช่วงบวก หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ซบเซาเกินคาด แต่การเปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.ได้ช่วยหนุนดอลลาร์ในเวลาต่อมา

ณ เวลา 21.41 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.34% สู่ระดับ 109.60 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.17% สู่ระดับ 128.42 เยน และร่วงลง 0.52% สู่ระดับ 1.172 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.50% สู่ระดับ 93.09

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกดิ่งลง 1.1% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 0.3%

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับทบทวนยอดค้าปลีกในเดือนมิ.ย.เป็นเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 0.6%

ยอดค้าปลีกที่ซบเซาในเดือนก.ค. โดยรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา รวมทั้งการที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลได้หมดอายุลง

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ดิ่งลง 1.0% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนมิ.ย.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนก.ค.

ทั้งนี้ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวม เป็นการวัดการปรับตัวของภาคโรงงาน, เหมืองแร่ และสาธารณูปโภค

การผลิตของภาคโรงงานพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนก.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% โดยได้แรงหนุนจากการผลิตรถยนต์ หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนมิ.ย.

ส่วนภาคเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น 1.2% และภาคสาธารณูปโภคดิ่งลง 2.1%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนก.ค.ในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ