ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ขานรับ "พาวเวล" ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 30, 2022 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (29 มิ.ย.) โดยดัชนีดอลลาร์ พุ่งทะลุระดับ 105 ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณว่า เฟดจะเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% แตะที่ระดับ 105.1060

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 136.54 เยน จากระดับ 136.29 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.2895 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2871 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9552 ฟรังก์ จากระดับ 0.9572 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0444 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0525 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2119 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2183 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6875 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6913 ดอลลาร์สหรัฐ

นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจัดขึ้นที่โปรตุเกสเมื่อวานนี้ว่า "เรามีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เรามีเพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ซึ่งการทำดังกล่าวก็คือการลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งแม้จะมีความเสี่ยง แต่ผมก็มองว่านี่ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ โดยความผิดพลาดมากกว่าที่อาจเกิดขึ้นก็คือความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพต้านราคา"

"เราจะป้องกันไม่ให้ภาวะเงินเฟ้อต่ำกลายเป็นภาวะเงินเฟ้อสูง โดยในระยะสั้น เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งเพื่อสกัดราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เฟดจะต้องสกัดคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวเพื่อไม่ให้การคาดการณ์ดังกล่าวฝังแน่นในความคิดของผู้บริโภคจนกลายเป็นปัจจัยผลักดันให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นจริงตามคาด" นายพาวเวลกล่าว

ทั้งนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 5.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยสูงกว่าระดับ 4.2% ที่มีการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 3.1% โดยสูงกว่าระดับ 2.8% ที่มีการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.จากเอสแอนด์พี โกลบอล และดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ