อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 01.03 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 2.746% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.118%
ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2560 จากระดับ 54.9 ในเดือนม.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว
รายงานของมาร์กิตสอดคล้องกับผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 54.2 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559 โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 55.5 หลังจากแตะระดับ 56.6 ในเดือนม.ค.
การปรับตัวลงของดัชนี ISM ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่, การผลิต, การจ้างงาน และราคา
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 1.9% ในเดือนธ.ค. หลังจากพุ่งแตะระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2555
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 93.8 ในช่วงท้ายเดือนก.พ. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 95.8 หลังจากแตะระดับ 95.5 ในช่วงต้นเดือนก.พ.
การร่วงลงของดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) และภาวะผันผวนในตลาด
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล