เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติงส์ (S&P Global Ratings) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอลเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) โดยระบุว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น
ทั้งนี้ เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอลลงสู่ระดับ A จากระดับ A+ และยังคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือไว้ที่ "เชิงลบ" โดยนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอล
"เราคาดการณ์ว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะรุนแรงมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากการยกระดับการสู้รบเมื่อไม่นานมานี้ ความขัดแย้งของทั้งสองฝ่ายอาจจะยืดเยื้อและรุนแรงขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงสำหรับอิสราเอล" นักวิเคราะห์ของ S&P ระบุในแถลงการณ์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถืออิสราเอลโดยเอสแอนด์พีนั้น มีขึ้นหลังจากที่มูดี้ส์ เรทติงส์ (Moody?s Ratings) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ย.) และมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธประมาณ 200 ลูกโจมตีอิสราเอล ในขณะที่เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่าจะตอบโต้การกระทำของอิหร่าน
นอกจากนี้ เอสแอนด์พียังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจที่แท้จริงของอิสราเอลลงเหลือ 0% ในปี 2567 และ 2.2% ในปี 2568 พร้อมกับคาดการณ์ว่ารัฐบาลอิสราเอลจะขาดดุลงบประมาณมากขึ้นทั้งในระยะสั้นและในระยะกลาง เนื่องจากการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศปรับตัวสูงขึ้น