คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ประกาศการใช้มาตรการใหม่เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในด้านการกำกับดูแลการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีขึ้น 2 วันหลังจากที่บริษัทผู้ผลิตยาแห่งหนึ่งแจ้งระงับแผนการขายหุ้นของบริษัทโดยระบุว่า “เป็นการเสนอขายหุ้นจำนวนมากเกินไป"
บริษัทเจียงซู โอไซคัง ฟาร์มาซูติคัล ระบุในเอกสารที่ยื่นต่อ CSRC เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า บริษัทจะเลื่อนแผนการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออกไปเนื่องจากเป็นการระดมทุนและการโอนทรัพย์สินจำนวนมาก
ทั้งนี้ เจียงซู โอไซคัง ฟาร์มาซูติคัล ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารักษาโรคมะเร็งมีแผนเสนอขายหุ้นจำนวน 55.46 ล้านหุ้นที่ราคาหุ้นละ 72.99 หยวน (11.97 ดอลลาร์) เพื่อระดมทุนจำนวน 790 ล้านหยวนผ่านการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทมีอัตราส่วนราคาต่อรายได้ (PE) ที่ 67 เท่า ของกำไรสุทธิในปี 2555 ซึ่งเป็นสถิติสัดส่วน PE ที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่จีนเริ่มอนุญาติให้บริษัทเอกชนสามารถออก IPO ได้อีกครั้ง ณ สิ้นปี 2556
แต่ถึงแม้ว่าจีนได้ให้คำมั่นว่าจะอนุญาตให้ตลาดดำเนินงานได้อย่างอิสระ การลดแทรกแซงจากรัฐบาลก็ยังคงไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในเรื่องการกำกับดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดการเงิน
หลังจากที่ทางการจีนได้ระงับการออก IPO มาเป็นระยะเวลา 1 ปี และอนุญาติให้ดำเนินการได้อีกครั้งในเดือนธ.ค. พร้อมกับแผนปฏิรูปใหม่ที่เปลี่ยนจากระบบการอนุมัติเป็นการจดทะเบียน เจ้าหน้าที่กำกับดูแลระบุว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ได้เป็นการผ่อนคลายกฎระเบียบแต่เป็นการเพิ่มการกำกับดูแลในระหว่างการเสนอขาย IPO และภายหลังการจดทะเบียน
นายเต็ง เกอ โฆษก CSRC กล่าวในงานแถลงข่าวว่า การปฏิรูปตลาด IPO ไม่ได้หมายถึงมีการมีเสรีอย่างไร้ขีดจำกัด และจะไม่อนุญาตให้มีการปั่นราคาหุ้นออกใหม่และผู้ออกหุ้นและอันเดอร์ไรเตอร์จะต้องยึดมั่นในเรื่องความยุติธรรมด้วยการกำหนดอัตราส่วนหุ้นออกใหม่และหุ้นเก่าอย่างสมเหตุผล
ข้อมูลที่ CSRC เผยแพร่บนเว็บไซต์ระบุว่า CSRC จะจัดตั้งจุดตรวจสอบหลักทรัพย์และการทำโรดโชว์หุ้น IPO ตัวใหม่ๆ โดยบริษัทที่ออกหุ้นและผู้ทำอันเดอร์ไรท์รายใหญ่ที่นำข้อมูลที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้เปิดเผยมาใช้ในระหว่างการทำโรดโชว์นั้น จะถูกระงับไม่ให้ทำการออกหุ้น และจะต้องใช้มาตรการกำกับดูแล หรืออาจจะถึงขั้นถูกลงโทษหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง
ณ วันศุกร์ที่ผ่านมา มีบริษัทเอกชนทั้งหมด 51 รายได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้น IPO และ CSRC จะไม่อนุมัติ IPO ให้กับผู้ขออนุญาตรายใหม่ไปจนถึงเดือนมี.ค. 2557
ทั้งนี้ นักลงทุนมีเหตุผลที่จะไม่พอใจและใช้ความระมัดระวังในตลาดหุ้นที่ซบเซาของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีภาวะซื้อขายย่ำแย่ที่สุดในโลกในปีที่ผ่านมา
การอนุญาตให้ออกหุ้น IPO ได้อีกครั้งได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุทำให้ตลาดหุ้นซบเซาในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าจำนวนหุ้นจะสูงเกินความต้องการของตลาดในช่วงที่สภาพคล่องตึงตัว ในขณะที่การควบคุมบริษัทโอไซคังได้บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
อย่างไรก็ดี แม้จะมีการกล่าวถึงเหตุผลดังกล่าว ผลการสำรวจของ Hexun.com ซึ่งเป็นเว็บท่าด้านข่าวการเงินพบว่า ตลาดหุ้นจีนจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2557 โดยเป็นการสอบถามความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงจำนวน 100 รายและผู้อำนวยการสถาบันวิจัยหลักทรัพย์จำนวน 22 ราย
การสำรวจดังกล่าวพบว่านักเศรษฐศาสตร์มีมุมมองที่เป็นบวก โดย 71 รายระบุว่า ดัชนีตลาดหุ้นจะอยู่ที่ระหว่าง 2,300-3,000 จุด ในขณะที่นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ไม่เห็นด้วยกับความหวังดังกล่าว
นายจาง เหว่ยหลิง นักเศรษศาสตร์จากเวสเทิร์น ซิเคียวริตี้ส์ ระบุโดยอ้างข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ครั้งล่าสุดและแรงกดดันจาก IPO ว่า ตลาดหุ้นจีนยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้น
นายฉิน ฮอง นักเศรษศาสตร์ของจินไป่หลิน โกลบอล อินเวสท์เมนต์ คอนซัลเทชั่น กล่าวว่า เพื่อให้ตลาดหุ้นมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เจ้าหน้าที่กำกับดูแลควรจะลดความไม่พอใจของนักลงทุนและดึงดูดเงินลงทุนเข้าสู่ตลาดมากขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อวานนี้ โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวลดลง 0.19% หรือ 3.73 จุด ปิดที่ 2,009.56 จุด