Analysis: นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นเอเชียไม่ร่วงหนักมาก แม้เฟดขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 14, 2015 15:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

แม้ในช่วงที่ผ่านมานั้น ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าหรือภายในสิ้นปีนี้ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตลาดหุ้นเอเชียจะไม่ร่วงลงมากนักแม้ว่าเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม

ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วสุดเดือนหน้านี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008

เอชเอสบีซี โกลบอล รีเสิร์ชระบุว่า แม้ตลาดหุ้นต่างๆในเอเชียได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด แต่ขณะนี้ยังไม่มีตัวอย่างในอดีตที่บ่งชี้ถึงผลกระทบหลังเฟดปรับเพิ่มดอกเบี้ย ส่วนตัวอย่างที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับตลาดหุ้นเอเชียน่าจะเมื่อช่วงปี 2547 ซึ่งตลาดร่วงลงในปีนั้น

อย่างไรก็ตาม เอชเอสบีซีย้ำว่า ไม่ควรมองในเรื่องของกำหนดเวลาของเฟดอย่างเดียว แต่ควรมองถึงทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยหลังจากนั้นด้วย โดยหากเฟดมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงมาก ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก็น่าจะส่งผลกระทบด้านลบอย่างหนักต่อตลาดหุ้นเอเชีย

ด้านโนมูระ โกลบอล มาร์เก็ตส์ รีเสิร์ช คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นเอเชียจะยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นต่อไปแม้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยปัจจุบัน การปรับเพิ่มดอกเบี้ยของเฟดเป็นเหตุการณ์ด้านนโยบายการเงินที่ถูกจับตามองมากที่สุดในโลก

โนมูระยกตัวอย่างเปรียบเทียบระหว่างปัจจุบัน กับการประกาศยุติโครงการรับซื้อพันธบัตรของเฟดเมื่อสองปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ โนมูระเชื่อว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะช่วยชดเชยผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่บ้าง

ทั้งนี้ โนมูระคาดว่า โครงการซื้อพันธบัตรขนานใหญ่ของ ECB และ BOJ น่าจะเอื้ออำนวยต่อตลาดหุ้นเอเชีย โดยดำเนินบทบาทแทนนโยบายการเงินของสหรัฐในการเสริมสภาพคล่องภายในภูมิภาค

โนมูระคาดการณ์ว่าเมื่อเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ ก็จะเกิดการเทขายพันธบัตร ขณะที่ตลาดหุ้นก็จะเกิดการถอยกลับในช่วงแรกๆท่ามกลางความไม่แน่นอนจากความโกลาหลในตลาดพันธบัตรที่เกิดขึ้นชั่วขณะ

แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ ตลาดหุ้นก็จะดีดตัวขึ้น เนื่องจากได้รับสภาพคล่องที่ไหลออกมาจากตลาดพันธบัตร

บทวิเคราะห์โดย Tan Shih Ming จากสำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ