ข้อมูลการปล่อยสินเชื่อของจีนเดือนเม.ย.อ่อนแอลงมากว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่การขยายตัวของสินเชื่อโดยรวมยังคงแข็งแกร่ง และนโยบายการเงินของธนาคารกลางจีนจะยังคงอยู่ในรูปแบบที่รัดกุมรอบคอบต่อไป
ธนาคารกลางจีนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปทานเงินในวงกว้างที่ครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทั้งหมด เพิ่มขึ้น 12.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 145 ล้านล้านหยวนในช่วงสิ้นเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าอัตราการขยายตัวต่อปีในเดือนมี.ค.ที่ 13.4% แม้ว่าฐานการขยายตัวจะอยู่ในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนเม.ย.ก็ตาม
ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่สกุลเงินหยวนของจีนในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 5.56 แสนล้านหยวน หรือ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่ายอดปีที่แล้ว 1.52 แสนล้านหยวน ในขณะที่ยอดเงินกู้ใหม่เพื่อสนับสนุนงานด้านสังคม ลดลงมาอยู่ที่ 7.51 แสนล้านหยวนในเดือนเม.ย. จากระดับเดือนมี.ค.ที่ 2.34 ล้านล้านหยวน
แถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนระบุว่า ความผิดหวังกับสถิติดังกล่าวอาจจะทำให้นักลงทุนบางส่วนกังวลว่า รัฐบาลจีนได้เริ่มดำเนินการเพื่อคุมเข้มนโยบายด้านสินเชื่อแล้ว อย่างไรก็ดี สถิติที่อ่อนตัวลงนั้นไม่ได้บ่งชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน และปริมาณสินเชื่อโดยรวม รวมทั้งเงินกู้ด้านสังคม และสภาพคล่องยังคงมีเสถียรภาพ ภายหลังจากที่ส่งผลกระทบต่อผลพวงตามฤดูกาลและสว็อปหนี้ของหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น
นายหม่า จุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางจีนชี้ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนตัวไม่ควรจะถูกนำมาตีความมากจนเกินไป เนื่องจากการสว็อปพันธบัตรของรัฐบาลมูลค่ากว่า 3350 แสนล้านหยวนนั้นถูกหักออกจากยอดการปล่อยกู้ทั้งหมดแล้ว และหุ้นที่เกี่ยวกับเงินกู้ด้านสังคม รวมทั้งอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่ลดลง
นายหวาง เตา นักเศรษฐศาสตร์ยูบีเอส ไชน่า กล่าวว่า ยอดเงินฝากของภาคเอกชนที่ปรับตัวสูงขึ้น การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งการให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารนโยบายอาจจะมีส่วนทำให้เกิดการชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน
นายหวาง กล่าวต่อไปว่า ยอดการปล่อยกู้สกุลเงินหยวน หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทเอกชน และตราสารหนี้ undiscounted bill ที่ชะลอตัวลงนั้น ได้กลายเป็นสาเหตุของเงินกู้ด้านสังคมที่หดตัวลง โดยเฉพาะการออกหุ้นกู้บริษัทชุดใหม่ที่อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 2.10 แสนล้านหยวน เนื่องจากความผันผวนของตลาดบอนด์ออนชอร์และความเชื่อมั่นในตลาดที่ถดถอยลงเมื่อเร็วๆนี้
แถลงการณ์ของแบงก์ชาติจีนระบุว่า ธนาคารกลางจีนจะยังคงจุดยืนการเงินที่รอบคอบต่อไป ก่อนที่จะแรงกดดันด้านการเงินจะเกิดขึ้นชัดเจนมากกว่านี้ และอาจจะใช้วิธีการที่ยืดหยุ่นและพุ่งเป้าหมายมากขึ้น แทนที่จะผ่อนปรนในวงกว้าง เพื่อที่จะได้สนับสนุนการปฏิรูปที่อิงอุปทานและควบคุมความเสี่ยงด้านการเงิน
รายงานการวิจัยของ China International Capital Corporation Limited (CICC) ระบุว่า ในขณะที่การฟื้นตัวยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องและขยายวงสู่ภาคธุรกิจกลางและปลายน้ำนั้น เงินเฟ้อก็เคลื่อนไหวในระดับปานกลาง และความจำเป็นในการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมก็อาจจะลดลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ CICC คาดว่า ธนาคารกลางจะยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และมีโอกาสน้อยที่จะมีการลดสัดส่วนการกันสำรองลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน