ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารความมั่งคั่งระดับแนวหน้าของโลก วิเคราะห์ว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันนั้น จะช่วยให้เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับฟื้นตัวดีขึ้นในปี 2560
นายแกรี ดูแกน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนแห่งธนาคารเอมิเรตส์ เอ็นบีดี ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธนาคารที่ใหญ่ที่แข็งแกร่งในตะวันออกกลาง ระบุว่า ราคาน้ำมันจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นภายหลังจากที่ 13 ชาติสมาชิกของกลุ่มโอเปกตกลงกันในเดือนพ.ย.ว่าจะปรับลดการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นายดูแกนคาดการณ์ว่า ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานของประเทศอ่าวอาหรับจะปรับตัวสูงขึ้น 15% ในไตรมาสแรกของปี 2560 ซึ่งเป็นราคาที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุน โดยนักลงทุนจากต่างประเทศมีแนวโน้มที่จะลงทุนในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
เขากล่าวเสริมว่า "การปรับลดการผลิตน้ำมันและก๊าซจะส่งผลให้อุปทานของตลาดน้ำมันปรับตัวลดลง ซึ่งน่าจะทำให้ราคาน้ำมันดิบมีเสถียรภาพมากขึ้น"
อย่างไรก็ตาม แม้นายดูแกนคาดว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับจะฟื้นตัวอย่างสดใส แต่เขามองว่า การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างพลิกความคาดหมายนั้น อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อภูมิภาคดังกล่าวก็เป็นได้
"ถึงแม้กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับจะเผชิญกับความเสี่ยงในทิศทางขาลงที่น้อยลง ทว่า ยังคงมีข้อกังขาเกิดขึ้นเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของนายทรัมป์ที่มีต่อตะวันออกกลาง" ดูแกนสำทับ
สำหรับความสัมพันธ์กับจีนนั้น นายดูแกน ระบุว่า การลงทุนระหว่างประเทศอ่าวอาหรับกับจีนนั้น จะยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับโครงการความร่วมมือใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"นับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของรัฐดูไบ ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์" นายดูแกนกล่าว / บทวิเคราะห์โดยสำนักข่าวซินหัว