สมาชิกสภาสามัญชนของอังกฤษลงมติเมื่อวานนี้ด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวันจันทร์ ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการ Brexit ของอังกฤษเผชิญกับความปั่นป่วนต่อไป
ผลการลงมติทำให้เกิดความสับสนว่า อังกฤษจะถอนตัวออกจาก EU อย่างไร และอังกฤษจะดำเนินความสัมพันธ์ใหม่อย่างไรกับ EU หลังการแยกตัว
ทั้งนี้ เสียงสนับสนุนและเสียงคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวแตกต่างกันอยู่ 149 เสียง โดยสมาชิกสภา 75 คนจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเมย์ลงมติคัดค้านข้อตกลงดังกล่าว
ความพ่ายแพ้ครั้งที่ 2 ของนางเมย์เกี่ยวกับ Brexit นับตั้งแต่เดือนม.ค. ทำให้ชาวอังกฤษกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากระหว่างกระบวนการ Brexit แบบไร้ข้อตกลง และการขอเลื่อนเวลา Brexit ออกไปอีก
สำหรับในขั้นตอนต่อไปนั้น รัฐสภาจะทำการลงมติในวันพุธนี้ว่าจะเห็นชอบต่อการที่อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบ ก็จะทำการลงมติในวันพฤหัสบดีนี้ว่า จะเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาการแยกตัวจากเดิมในวันที่ 29 มี.ค.หรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภามีมติเรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาออกไป รัฐบาลก็จะต้องทำการเจรจากับ EU ในเรื่องดังกล่าว แต่หากรัฐสภามีมติไม่เรียกร้องให้ EU ขยายกำหนดเวลาออกไป อังกฤษก็จะแยกตัวจาก EU อย่างเป็นทางการตามกำหนดเดิมในวันที่ 29 มี.ค.นี้
ผลการลงมติครั้งล่าสุดถือว่าโหดร้ายสำหรับนางเมย์น้อยกว่าในเดือนม.ค.เล็กน้อย โดยในเดือนม.ค.นั้น สมาชิกสภาลงมติคว่ำข้อตกลง Brexit ของเธอด้วยคะแนนเสียงที่แตกต่างกันถึง 230 เสียง ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอังกฤษ
ก่อนหน้าการลงมติเมื่อคืนนี้ นางเมย์หวังว่า ข้อตกลงของเธอจะได้รับความเห็นชอบจากสภา หลังจากที่ EU ได้อนุมัติให้เธอทำการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกกฏหมายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากเธอเดินทางไปเจรจากับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่เมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส ก่อนหน้าที่นางเมย์จะเดินทางไปยังเมืองสตราสบูร์กในวันจันทร์นั้น บรรดานักการเมืองอังกฤษคาดว่า นางเมย์จะพ่ายแพ้ในการลงมติราว 100-150 เสียง และเมื่อข้อตกลงของนางเมย์ได้รับการอนุมัติจาก EU ให้ทำการเปลี่ยนแปลงนั้น บรรดาสมาชิกสภาส่วนใหญ่ก็ยังคงคิดว่า นางเมย์ก็จะยังคงเผชิญความยากลำบากในการลงมติในคืนวันอังคาร
นางเมย์กล่าวต่อบรรดาสมาชิกสภาว่า เธอรู้สึกเสียงใจอย่างมากกับผลการลงมติเมื่อคืนวานนี้
สมาชิกสภาอังกฤษได้ลงมติคว่ำข้อตกลง Brexit ของนางเมย์ด้วยคะแนนเสียงคัดค้านท่วมท้น และเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงข้อผูกพันทางกฏหมาย ในข้อตกลงที่อังกฤษและ EU เห็นชอบร่วมกันหลังการเจรจาต่อรองยืดเยื้อมานาน
นางเมย์หวังว่าข้อตกลงที่มีการเปลี่ยนแปลงของเธอจะผ่านการอนุมัติจากรัฐสภา แต่ความหวังนั้นได้สูญสิ้นไปเมื่อนายเจฟฟรีย์ ค็อกซ์ อัยการสูงสุดของอังกฤษเตือนว่า ความเสี่ยงทางด้านกฎหมายของข้อตกลง Brexit ยังคงมีอยู่ แม้ข้อตกลงดังกล่าวได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลังจากที่นางเมย์ทำการเจรจากับผู้นำ EU เมื่อวันจันทร์แล้วก็ตาม
อุปสรรคใหญ่ที่ขัดขวางการทำข้อตกลงก็คือ คำถามเกี่ยวกับนโยบาย backstop ซึ่งเป็นนโยบายในการรับประกันว่า จะไม่มีการกลับไปใช้มาตรการควบคุมชายแดนอย่างเข้มงวดระหว่างไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป
ทันทีที่อังกฤษออกจาก EU พรมแดนระยะทาง 500 กิโลเมตรจะกลายเป็นพรมแดนของ EU โดยนายค็อกซ์เตือนว่า แม้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงที่เมืองสตราสบูร์ก อังกฤษก็อาจยังคงเผชิญปัญหาเกี่ยวกับนโยบาย backstop อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นายค็อกซ์กล่าวว่า เอกสารใหม่ไม่ได้รวมการเปลี่ยนแปลงที่มีผลทางกฏหมายต่อข้อตกลงการถอนตัวระหว่างอังกฤษกับ EU ซึ่งนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้พรรคสหภาพประชาธิปไตยแห่งไอร์แลนด์เหนือ (DUP) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลของนางเมย์ และ กลุ่ม European Research Group (ERG) ประกาศ พวกเข้าจะลงมติคัดค้านข้อตกลง Brexit ของนางเมย์
ทันทีที่พรรค DUP และกลุ่ม ERG ถอนการสนับสนุน ก็ไม่มีความหวังที่นางเมย์จะชนะการลงมติ โดยทั้งสองกลุ่มยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนข้อตกลงใดๆ ที่ทำให้อังกฤษยังคงต้องปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ของ EU และไม่มีทางที่จะหนีจากการควบคุมของ EU
สมาชิกสภาคนอื่นๆ มีเหตุผลที่แตกต่างกันในการคัดค้านข้อตกลงของนางเมย์ แต่ในท้ายที่สุด ประเด็นนโยบาย backstop ก็ยังคงเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไข
ขณะนี้ รัฐสภาอังกฤษเผชิญกับความปั่นป่วนและไม่แน่นอน โดยมีเวลาเหลือกว่า 2 สัปดาห์เล็กน้อยก่อนถึงกำหนดถอนตัวในวันที่ 29 มี.ค.
นางเมย์ยอมรับว่า ขณะนี้ สมาชิกสภามีทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดำเนินการขั้นต่อไป
ด้านนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ได้เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทั่วไปหลังจากนางเมย์พ่ายแพ้อีกครั้งในการลงมติข้อตกลง Brexit เมื่อวานนี้
นายคอร์บินกล่าวว่า ข้อตกลง Brexit ตายสนิทแล้วในขณะนี้ ขณะที่นายเอียน แบล็คฟอร์ด ผู้นำพรรค Scottish National Party (SNP) ระบุว่า ผลการลงมติทำให้นางเมย์อับอายขายหน้า
นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องให้นางเมย์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย
ในวันพุธนี้ สมาชิกสภาอังกฤษจะอภิปรายกันว่า อังกฤษต้องการจะตัดโอกาสของการทำ Brexit แบบไร้ข้อตกลงหรือไม่ และหากสภาเห็นชอบการทำ Brexit แบบมีข้อตกลง สภาก็จะทำการลงมติครั้งต่อไปในวันพฤหัสบดีนี้เพื่อพิจารณาว่า อังกฤษจะขยายกำหนดวัน Brexit ออกไปหรือไม่
นางเมย์กล่าวว่า เธอตระหนักถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการออกจาก EU โดยไม่มีข้อตกลง แต่เธอจะเรียกร้องให้สภาลงมติคัดค้านกระบวนการ Brexit แบบไม่มีข้อตกลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีการคาดการณ์กันว่า สภาอังกฤษจะปฏิเสธการออกจาก EU หากไม่มีข้อตกลง ซึ่งก็ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะต้องขยายเวลาการทำ Brexit ออกไปอีก และคำถามที่ยังไม่รู้คำตอบก็คือ การขยายเวลานั้นจะยาวนานเพียงใด