ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) เข้าแทรกแซงตลาดอย่างหนักในวันนี้ (24 พ.ย.) เพื่อชะลอแรงกดดันต่อค่าเงินรูปีที่สะสมมาตั้งแต่วันศุกร์ (21 พ.ย.) ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินร่วงลงหลุดระดับสำคัญและเสี่ยงที่จะแตะระดับจิตวิทยาที่ 90 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐ
ล่าสุด ค่าเงินรูปีเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 89.16 รูปีต่อดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้น 0.35% ในระหว่างวัน
ก่อนเปิดตลาดในเวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ระบบจับคู่คำสั่งซื้อขายระหว่างธนาคารชี้ว่า ค่าเงินรูปีมีแนวโน้มจะร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 89.50 ซึ่งจะเป็นสถิติต่ำสุดครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อ RBI เข้าแทรกแซง โดยคาดว่ามีการเทขายดอลลาร์ทั้งในระบบจับคู่คำสั่งซื้อขายและในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ไม่มีการส่งมอบ (NDF) เพื่อช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่น ส่งผลให้เงินรูปีเปิดตลาดที่ระดับ 89.15
เงินรูปีเริ่มอ่อนค่าทะลุระดับ 88.80 ตั้งแต่วันศุกร์ ซึ่งเป็นแนวรับที่นายธนาคารระบุว่า RBI พยายามรักษามานานหลายสัปดาห์ การหลุดระดับดังกล่าวทำให้เกิดแรงเทขายกดดันต่อเนื่องมาจนถึงสัปดาห์นี้
นายธนาคารหลายรายระบุว่า หลังจากการร่วงลงเมื่อวันศุกร์ ตลาดเริ่มกังวลว่าเงินรูปีอาจอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วไปแตะระดับ 90 รูปีต่อดอลลาร์ การเทขายดอลลาร์อย่างหนักของ RBI ในวันจันทร์จึงถูกมองว่าเป็นความพยายามสกัดกั้นไม่ให้ค่าเงินอ่อนตัวเร็วเกินไป
เจ้าหน้าที่บริหารการเงินอาวุโสจากธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งให้ความเห็นว่า บรรยากาศของเงินรูปีในขณะนี้ถือว่า "หนักมาก" เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะเข้ามาชะลอแรงกดดันในตลาดได้
เทรดเดอร์ระบุว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับอินเดียที่ไม่คืบหน้า ยิ่งซ้ำเติมความเชื่อมั่น ทำให้ตลาดขาดปัจจัยหนุนทางนโยบายที่จะมาช่วยชดเชยการขาดดุลการค้าที่กว้างขึ้นของอินเดีย รวมถึงกระแสเงินทุนไหลเข้าที่ยังคงเบาบาง
ทางด้านธนาคาร HDFC มองสถานการณ์ด้วยความระมัดระวังเช่นกัน โดยระบุว่าต่อให้มีการประกาศข่าวดีเรื่องการค้ากับสหรัฐฯ ก็อาจช่วยพยุงค่าเงินได้เพียงระยะสั้นเท่านั้น
ทั้งนี้ สัญชัย มัลโฮตระ ผู้ว่าการ RBI กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.) ว่า การอ่อนค่าของรูปีในช่วงนี้เกิดจากความต้องการดอลลาร์ที่สูงขึ้น ซึ่งอาจเบาบางลงหากอินเดียกับสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงทางการค้า พร้อมยืนยันว่าทุนสำรองระหว่างประเทศของอินเดียมีเพียงพอที่จะปกป้องค่าเงินได้