ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันศุกร์นี้ (19 ธ.ค.) สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี และส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ต้องเผชิญแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีที่มีท่าทีผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยการตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้ปีนี้ปิดฉากด้วยการขึ้นดอกเบี้ยรวม 2 ครั้ง
แม้การปรับขึ้นครั้งนี้ยังทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นทั่วโลก แต่ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในความพยายามของคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ในการนำนโยบายการเงินกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากญี่ปุ่นใช้นโยบายผ่อนคลายพิเศษและอัตราดอกเบี้ยใกล้ระดับ 0% มาเป็นเวลานาน
ราคาอาหารที่ยังอยู่ในระดับสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อทรงตัวเหนือเป้าหมาย 2% ต่อเนื่องเกือบ 4 ปี ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์อย่างกว้างขวางว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็น 0.75% จาก 0.5% ในการประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันซึ่งจะสิ้นสุดในวันศุกร์นี้
รายงานข่าวระบุว่า BOJ จะย้ำจุดยืนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่จังหวะและความเร็วของการปรับขึ้นจะขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเศรษฐกิจต่อการขึ้นดอกเบี้ยในแต่ละครั้ง
ด้านซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (16 ธ.ค.) ว่า รัฐบาลและ BOJ ไม่มีความเห็นที่แตกต่างกันต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งสะท้อนว่า รัฐบาลยอมรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.75%