รายงานการประชุมของบีโอเจระบุว่า คณะกรรมการบริหารทั้ง 9 คนของบีโอเจได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะขยายโครงการเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ให้กับสถาบันการเงิน ท่ามกลางสถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นและตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงในช่วงเวลาดังกล่าว
ภายใต้โครงการจัดหาเงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่นั้น ปัจจุบันบีโอเจได้จัดหาเงินกู้สูงสุดอายุไม่เกิน 1 ปีให้กับสถาบันการเงินต่างๆ เช่นธนาคารพาณิชย์ ในอัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อปี อีกทั้งได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหลักทรัพย์อื่นๆที่ใช้ค้ำประกันเงินกู้
ในการประชุมดังกล่าว กรรมการบางคนของบีโอเจกล่าวว่า การนำมาตรการต่างๆมาใช้นั้น "จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาด โดยคาดว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยยับยั้งความผันผวนที่มากจนเกินไปของอัตราดอกเบี้ย"
"การหารือในระหว่างการประชุมนั้น กรรมการบีโอเจสรุปว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขยายโครงการเงินกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์ ผ่านทางการดำเนินการจัดหาเงินทุนโดยใช้หลักทรัพย์คำประกันเงินกู้" รายงานการประชุมระบุในการประชุมเมื่อวันที่ 10-11 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินทั้ง 9 คนของบีโอเจมีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษในการประชุม
นอกจากนี้ บีโอเจยังได้ยกระดับการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยระบุว่า "เศรษฐกิจกำลังกระเตื้องขึ้น" จากการประชุมเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งบีโอเจระบุว่า "เศรษฐกิจเริ่มกระเตื้องขึ้น" พร้อมกับยืนยันว่า บีโอเจจะเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี สำนักข่าวเกียวโดรายงาน