“เยลเลน" ส่งสัญญาณสานต่อนโยบายการเงิน สู่การยุติมาตรการ QE

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 12, 2014 10:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ในการแถลงนโยบายการเงินครั้งแรกต่อสภาคองเกรส นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ได้เน้นย้ำถึงแผนการของเฟดในการปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือ QE แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจยังอ่อนแอในช่วงที่ผ่านมา

แนวโน้มและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งนโยบายการเงิน นับเป็นประเด็นจับตาในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีของประธานเฟดคนใหม่

นางเยลเลนได้กล่าวต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติว่า เธอคาดว่านโยบายการเงินของเฟดจะมีความต่อเนื่อง โดยระบุว่าเธอได้ทำหน้าที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดเมื่อเฟดได้กำหนดกลยุทธ์เชิงนโยบายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และเธอสนับสนุนกลยุทธ์ดังกล่าวอย่างมาก

นางเยลเลน วัย 67 ปี ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานเฟดเมื่อวันที่ 3 ก.พ.สืบต่อจากนายเบน เบอร์นันเก้ โดยก่อนหน้านี้ นางเยลเลนดำรงตำแหน่งรองประธานเฟด

ประธานเฟดกล่าวว่า ขณะที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นในช่วงสิ้นปี 2556 นั้น ตลาดแรงงานของสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพิจารณาปัจจัยชี้วัดด้านแรงงานอื่นๆที่นอกเหนือจากอัตราว่างงาน เมื่อมีการประเมินภาวะตลาดแรงงาน

“หากข้อมูลที่กำลังจะมีการเปิดเผยได้สนับสนุนการคาดการณ์ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาวะตลาดแรงงาน และเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมายในระยะยาว คณะกรรมการก็มีแนวโน้มจะลดวงเงินในการซื้อสินทรัพย์ลงต่อไปอย่างระมัดระวังในการประชุมครั้งต่อๆไป" นางเยลเลนกล่าวถึงการปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟดอย่างต่อเนื่อง โดยระบุคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งมีหน้าที่กำหนดนโยบายการเงิน

ขณะที่ยอมรับว่ามีความประหลาดใจกับข้อมูลจ้างงาน 2 ครั้งล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่นางเยลเลนได้เตือนเกี่ยวกับการด่วนสรุปเกี่ยวกับแนวโน้มในระยะยาว โดยประธานเฟดได้กล่าวต่อสภาคองเกรสว่าเฟดต้องเห็น “การเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน" เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณายุติการถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน

ทั้งนี้ เฟดได้ปรับลดสัดส่วนการซื้อพันธบัตรรายเดือนลงทั้งในการประชุมเมื่อเดือนธ.ค.และม.ค. โดยระบุถึงเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในตลาดแรงงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ