นายโยชิฮิสะได้กล่าวสุนทรพจน์ที่เมืองวากะยามะ จังหวัดวากะยามะว่า "แม้ว่าการส่งออกของญี่ปุ่นอยู่ในช่วงขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงขาดแรงกระตุ้นอยู่บ้างจากปัจจัยบางประการ" โดยชี้ว่า การส่งออกของญี่ปุ่นนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะซบเซาในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก
นายโมริโมโตะเตือนว่า เศรษฐกิจเกิดใหม่บางแห่งนั้น "จำเป็นต้องได้รับความสนใจ" เนื่องจากประเทศเหล่านี้ต้องเผชิญกับปัญหาด้านโครงสร้างต่างๆ เช่น การขาดดุลในส่วนของงบประมาณและบัญชีเดินสะพัด เช่นเดียวกับปัญหาเงินทุนไหลออกหลังธนาคารกลางสหรัฐปรับลดมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน
จนท.บีโอเจกล่าวว่า เศรษฐกิจเกิดใหม่บางแห่ง "มีแนวโน้มว่าจะขาดปัจจัยกระตุ้นการขยายตัวสักระยะหนึ่ง" แม้ว่าประเทศเหล่านี้ดูจะได้รับประโยชน์จากผลพวงด้านบวก จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้วในระยะยาว
ในขณะเดียวกัน โมริโมโตะคาดการณ์ว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นจะ "ปรับตัวเพิ่มขึ้นพอประมาณในภาพรวม" โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป
ทั้งนี้ เขาได้ออกแถลงการณ์หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้รายงานยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค. ซึ่งทำสถิติสูงสุดที่ 2.79 ล้านล้านเยน แม้ว่าญี่ปุ่นมียอดส่งออกเพิ่มขึ้นหลังเงินเยนอ่อนค่าลง อีกทั้งการสั่งระงับการดำเนินงานในโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการนำเข้าพลังงานเพิ่มขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน