ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจขยายตัวเล็กน้อยในช่วงกลางเดือนพ.ค.จนถึงต้นเดือนก.ค. โดยผู้บริโภคยังคงจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แม้ภาคธุรกิจมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากข้อพิพาทการค้า
รายงานระบุว่า การจ้างงานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัว ซึ่งหมายความว่านายจ้างยังมีแนวโน้มที่จะจ้างงานเพิ่มขึ้น
รายงาน Beige Book ยังระบุด้วยว่า ผลการสำรวจบริษัทเอกชนจำนวน 360 แห่งของเฟดในเขตดัลลัสพบว่า 28% ของบริษัทเหล่านี้ได้รับผลกระทบในด้านลบจากนโยบายการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของรัฐบาล และมีเพียง 5% เท่านั้นที่ได้รับผลในด้านบวก ขณะที่ธุรกิจของบริษัทในกลุ่มขนส่งชะลอตัวลง ส่วนบริษัทในภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้า โดยมีบริษัทจำนวนหนึ่งต้องย้ายสายการผลิตที่ใช้วัสดุนำเข้าจากจีน ออกจากสหรัฐ ไปยังประเทศอื่น
ขณะที่เฟดเขตบอสตันรายงานว่า ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกรายหนึ่งได้ย้ายสายการผลิตไปยังเยอรมนี เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของรัฐบาล เนื่องจากวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้ในสายการผลิตนั้น นำเข้าจากประเทศจีน
ส่วนเฟดในเขตคลีฟแลนด์ระบุว่า ภาคการผลิตยังคงอ่อนแรง เนื่องจากผลกระทบของสงครามการค้า และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ การเปิดเผยรายงาน Beige Book ครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้