ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า สินทรัพย์ด้านการเงินของภาคครัวเรือนญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนมิ.ย. อยู่ที่ระดับ 1,860 ล้านล้านเยน (17.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 0.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อพิจารณาประเภทของสินทรัพย์แล้ว พบว่า สินทรัพย์ประเภทหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราว 10% ของสินทรัพย์โดยรวมของภาคครัวเรือนนั้น ลดลง 9.7% สู่ระดับ 195 ล้านล้านเยน และสินทรัพย์ประเภททรัสต์เพื่อการลงทุน ลดลง 3.7% แตะระดับ 70 ล้านล้านเยน ขณะที่เงินสดและเงินฝาก ปรับตัวขึ้น 1.9% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 991 ล้านล้านเยน
ส่วนสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ พุ่งขึ้น 3.6% แตะที่ระดับ 25 ล้านล้านเยน
สำหรับสินทรัพย์ที่ถือครองโดยบริษัทเอกชน ซึ่งไม่นับรวมสถาบันการเงินนั้น ลดลง 3.2% แตะที่ระดับ 1,166 ล้านล้านเยน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงราคาหุ้นที่ซบเซา
ส่วนยอดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,137 ล้านล้านเยน โดยในจำนวนนี้ BOJ ถือครองเพิ่มขึ้น 6.2% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 494 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็นสัดส่วน 43.5% ของยอดการถือครองทั้งหมด ขณะที่นักลงทุนต่างชาติถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในสัดส่วน 12.8% คิดเป็นมูลค่า 145 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว