นายเอริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง และตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาบ่งชี้ว่าเฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนที่แล้ว
ทั้งนี้ เฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมวันที่ 30 ต.ค. ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ โดยเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ดี นายโรเซนเกรน และนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส ซิตี้ มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 30 ต.ค.
"เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะแข็งแกร่ง ซึ่งทำให้ผมลงมติสวนมติเฟดในการประชุมครั้งที่ผ่านมา โดยผมมองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไม่มีความจำเป็น และไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามาหลังการประชุมดังกล่าวที่จะทำให้ผมเปลี่ยนแปลงความคิดดังกล่าว" เขากล่าว
นายโรเซนเกรนปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าเขาจะสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าหรือไม่
"ผมจะยังไม่ทำการตัดสินใจ จนกว่าจะถึงการประชุม" นายโรเซนเกรนกล่าว
นอกจากนี้ นายโรเซนเกรนยังกล่าวว่า เขาไม่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับติดลบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ