คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ หลังจากที่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้
นอกจากนี้ เฟดยังได้ส่งสัญญาณไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยตลอดทั้งปี 2563 ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมสำหรับการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
ในการพิจารณา "dot plot" ซึ่งเป็นคาดการณ์ในอนาคตของคณะกรรมการเฟดแต่ละคน พบว่า เฟดส่งสัญญาณว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะมีการปรับขึ้นหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2563 โดยกรรมการเฟด 13 จาก 17 รายคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย อย่างน้อยจนถึงปี 2564 ขณะที่มีกรรมการเฟดเพียง 4 ใน 17 รายที่คาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2563 ส่วนในปี 2564 เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1-2 ครั้ง
เฟดคาดการณ์ค่ากลางอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.6% ในปีนี้และปีหน้า ลดลงจากระดับ 1.9% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.ย. และอยู่ที่ระดับ 1.9% ในปี 2564 เมื่อเทียบกับระดับ 2.1% ในคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 2.1% จากเดิมที่ระดับ 2.4% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 2.5%
กรรมการเฟดยังคงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 2.2% ในปีนี้ และคงตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าที่ระดับ 2.0% ส่วนในปี 2564 ยังคงอยู่ที่ระดับ 1.9% และคงคาดการณ์อัตราการขยายตัวในปี 2565 ที่ระดับ 1.8%
ขณะเดียวกัน เฟดปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปีนี้ สู่ระดับ 1.6% จากเดิมที่ระดับ 1.8% และคงตัวเลขในปี 2563 และ 2564 ที่ระดับ 1.9% และ 2.0% ตามลำดับ
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 3.5% จนถึงปีหน้า และเพิ่มขึ้นสู่ 3.6% ในปี 2564