กรรมการรายหนึ่งเปิดเผยว่า BOJ จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินในทิศทางใดบ้าง โดยจำเป็นต้องพิจารณาช่องทางการส่งผ่านนโยบายและผลกระทบของนโยบายอย่างรอบคอบ
กรรมการอีกรายหนึ่งมีความคิดเห็นว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมหากจำเป็น โดยต้องประเมินต่อเนื่องว่ากรอบนโยบายที่ใช้ปัจจุบันเพียงพอหรือไม่
ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ไว้ที่ระดับ 0% ในการประชุมเมื่อวันที่ 15 ก.ค.
นอกจากนี้ BOJ ได้ตัดสินใจคงมาตรการสนับสนุนภาคเอกชนในวงเงินรวม 110 ล้านล้านเยน (1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงโครงการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยสำหรับบริษัทเอกชน และเข้าซื้อหุ้นกู้ และตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะสั้น (Commercial Paper) หลังจากที่ได้เปิดตัวโครงการดังกล่าวในการประชุมเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน BOJ เปิดเผยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจภายหลังการประชุมนโยบายการเงินในวันเดียวกัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลง 4.7% และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะลดลง 0.5% ในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
ส่วนในปีงบประมาณ 2564 นั้น BOJ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 3.3% โดยคาดว่ากิจกรรมทางเศรษบกิจจะค่อยๆ กลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาด