คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในวันนี้ โดยเฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับดังกล่าวในวันที่ 15 มี.ค.ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะเดียวกัน เฟดยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เฟดมีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานได้ปรับตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับในช่วงต้นปีนี้
นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะขยายเวลาสำหรับข้อตกลงสว็อปดอลลาร์เพื่อให้สภาพคล่องแก่ธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งมาตรการซื้อคืนพันธบัตรจนถึงวันที่ 31 มี.ค.2564
เฟดระบุว่าจะยังคงถือครองพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเพื่อสร้างเสถียรภาพต่อตลาดการเงิน