นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย.
ล่าสุด ตัวเลขคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% และ 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย.เริ่มเข้าใกล้ 50-50 หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักลงทุนเทน้ำหนักว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50%
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ในขณะนี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 53.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 2.75-3.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนัก 46.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 31.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนก.ย. เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง
"ผมมองไม่เห็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้า โดยเฟดควรปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับ 3.75-4.00% ภายในสิ้นปีนี้" นายบูลลาร์ดกล่าว
คำกล่าวของนายบูลลาร์ดสอดคล้องกับถ้อยแถลงของนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ซึ่งสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ย.
ทั้งนี้ นายบูลลาร์ดเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย ขณะที่เฟดเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยเขาเชื่อมั่นว่าคณะกรรมการเฟดชุดปัจจุบันจะไม่นำพาเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นที่เคยเกิดขึ้นในสมัยที่นายพอล วอล์คเกอร์ ดำรงตำแหน่งประธานเฟดในช่วงต้นทศวรรษ 1980