ผลสำรวจภาคเอกชนที่เปิดเผยในวันนี้ (2 พ.ค.) บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตเกาหลีใต้ในเดือนเม.ย. เผชิญภาวะหดตัวเลวร้ายที่สุดในรอบ 31 เดือน หรือกว่า 2 ปีครึ่ง เนื่องจากอุปสงค์ทรุดตัวลงอย่างหนักจากผลกระทบของกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของเกาหลีใต้ ซึ่งจัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 47.5 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 49.1 ในเดือนมี.ค. นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 และยังเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ก.ย. 2565
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ยิ่งไปกว่านั้น ดัชนีย่อยชี้ว่า ทั้งผลผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ต่างปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2566
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนชัดว่า นโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์กำลังสั่นคลอนประเทศเศรษฐกิจสำคัญ ๆ ที่พึ่งพาการค้าอย่างหนัก โดยยอดคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออกหดตัวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2567 และยังเป็นการดิ่งลงแรงที่สุดในรอบ 22 เดือน
ขณะเดียวกัน ดัชนีชี้นำระยะสั้นอื่น ๆ เช่น ยอดซื้อปัจจัยการผลิตและปริมาณงานค้างส่ง ก็ลดลงหนักสุดในรอบ 31 เดือน และ 26 เดือนตามลำดับ ส่วนการเลิกจ้างพนักงานก็รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2563