นักช้อปชาวอังกฤษคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้าโลก และเดินหน้าจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนเม.ย. โดยได้อานิสงส์จากเทศกาลอีสเตอร์และสภาพอากาศที่แจ่มใส ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายอาหาร อุปกรณ์ทำสวน และเสื้อผ้า จากข้อมูลที่เปิดเผยวันนี้ (13 พ.ค.)
ยอดขายจากสมาชิกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (BRC) พุ่งสูงขึ้น 7.0% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากช่วงวันหยุดเทศกาลอีสเตอร์ นับเป็นการเติบโตรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19
ยอดขายเสื้อผ้าก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเดือนเม.ย.ปีนี้มีแดดออกมากที่สุดใน UK นับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติเมื่อปี 2453 กระตุ้นให้นักช้อปออกมาหาซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ หลังจากซบเซามาพักหนึ่ง
เมื่อรวมยอดขายเฉลี่ยของเดือนมี.ค.และเม.ย. เพื่อปรับผลกระทบจากช่วงเทศกาลอีสเตอร์ที่ปีนี้อยู่ในเดือนเม.ย. (ต่างจากปี 2567 ที่อยู่ในเดือนมี.ค.) พบว่า ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกัน ข้อมูลอีกชุดจากธนาคารบาร์เคลย์ส (Barclays) ก็ชี้ให้เห็นการฟื้นตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภคในทิศทางเดียวกันเมื่อเดือนที่แล้ว โดยตัวเลขการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. 2567 นับเป็นการเติบโตรายปีสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2566
บาร์เคลย์สระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปีที่อัตราการเติบโตของการใช้จ่ายสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ
ผลสำรวจที่แนบมาในรายงานการใช้จ่ายของธนาคารฯ ยังพบว่า ผู้บริโภคเกือบ 3 ใน 4 กังวลว่า สงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของครัวเรือน
อย่างไรก็ดี บาร์เคลย์สชี้ว่า ตัวเลขความกังวลดังกล่าวลดลงเล็กน้อยจากช่วงต้นเดือนเม.ย. และโดยรวมแล้วความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสถานะทางการเงินของตนเองยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมี.ค. โดยอยู่ที่ระดับ 70%