เศรษฐกิจมาเลเซียในไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัว 4.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนที่โต 4.9% (ตัวเลขปรับปรุงใหม่) และยังต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 4.5%
ด้านธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้อาจไม่สดใสนัก จากผลพวงของความตึงเครียดด้านการค้าที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายและการลงทุน
ธนาคารกลางชี้ว่า การเติบโตในไตรมาส 1 ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ยังแข็งแกร่ง การลงทุนที่มั่นคง และการส่งออกที่ยังไปได้ดี ประกอบกับตลาดแรงงานและนโยบายภาครัฐที่เอื้ออำนวย อย่างไรก็ดี อับดุล ราชีด กาฟโฟร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียระบุในการแถลงข่าวว่า "การเติบโตได้รับผลกระทบจากการผลิตน้ำมันและก๊าซที่ลดลง รวมถึงยอดขายและการผลิตยานยนต์ที่กลับสู่ภาวะปกติ"
เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสหลังปรับตามฤดูกาลนั้น GDP ไตรมาส 1/68 ขยายตัว 0.7% โดยพลิกจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัว 0.2%
อับดุล ราชีด คาดการณ์ว่า การเติบโตทั้งปี 2568 น่าจะต่ำกว่ากรอบคาดการณ์เดิมที่ 4.5%-5.5% เล็กน้อย โดยจะประกาศตัวเลขประมาณการใหม่อีกครั้งใน 1-2 เดือนข้างหน้า
"แนวโน้มความเสี่ยงโดยรวมยังคงชี้ไปในทิศทางที่เศรษฐกิจอาจเติบโตได้น้อยกว่าคาด" อับดุล ราชีด กล่าว พร้อมอธิบายว่า การชะลอตัวของประเทศคู่ค้าหลักจากผลกระทบของมาตรการกีดกันทางการค้าจะส่งผลต่อมาเลเซีย
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม กล่าวเมื่อต้นเดือนว่า การที่สหรัฐฯ ระงับการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ไปจนถึงเดือนก.ค. ทำให้ผลกระทบทางเศรษฐกิจยังพอรับมือได้ในระยะสั้น แต่คาดว่ามาเลเซียจะไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายการเติบโตของปีนี้
ทั้งนี้ มาเลเซียมีความเสี่ยงที่จะถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าในอัตราสูงถึง 24% ตั้งแต่เดือนก.ค.นี้ หากไม่สามารถเจรจาขอลดหย่อนภาษีดังกล่าวได้สำเร็จ