สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ (28 พ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับเดียวกับในเดือนมี.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 2.3%
ปัจจัยที่ทำให้ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้นในเดือนเม.ย. มาจากราคาอาหารและเครื่องดื่มปลอดแอลกอฮอล์ พุ่งขึ้น 3.1%, ต้นทุนที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 2.2% และค่าใช้จ่ายด้านนันทนาการและวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น 3.6%
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดสินค้าที่มีความผันผวนเช่นอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. โดยดัชนี CPI พื้นฐานเป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จับตาอย่างใกล้ชิด
ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลียยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายที่ RBA กำหนดไว้ในกรอบ 2% - 3%
ทั้งนี้ หลังการเปิดเผยดัชนี CPI นั้น สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นออสเตรเลียลดช่วงบวกลง
สำหรับการประชุมครั้งต่อไปของคณะกรรมการ RBA จะมีขึ้นในวันที่ 7-8 ก.ค. ขณะที่นักลงทุนมองว่ามีโอกาส 70% ที่ RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่ามีโอกาสสูงที่ RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 3 ครั้งในปีนี้