สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลี เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลงพร้อมกันในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจเกาหลีจะชะลอตัวลง
รายงานระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.8% ในเดือนเม.ย. พลิกกลับจากที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนมี.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีก ซึ่งเป็นมาตรวัดการใช้จ่ายภาคเอกชน ลดลง 0.9% ในเดือนเม.ย.จากเดือนก่อนหน้า และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยลดลง 0.4% จากเดือนก่อนหน้า
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. และเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว ที่ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจหลักทั้ง 3 รายการปรับตัวลดลงพร้อมกัน
สำหรับการลดลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการหดตัว 0.9% เมื่อเทียบรายเดือนในภาคการผลิต ซึ่งถือเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชีย
ภายในภาคการผลิต ผลผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่น เพิ่มขึ้น 2.6% และ 8.9% ตามลำดับเมื่อเทียบรายเดือน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวถูกหักล้างด้วยผลผลิตยานยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ที่ลดลง โดยลดลง 4.2% และ 2.9% ตามลำดับเมื่อเทียบรายเดือน นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนที่ผลผลิตรถยนต์ปรับตัวลดลงรายเดือน หลังจากเคยลดลง 6.6% เมื่อเทียบรายเดือนในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
อี ดูวอน เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสถิติฯ กล่าวว่า "การปรับตัวลดลงโดยรวมของดัชนีหลักในเดือนเม.ย. ได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทั้งภายในและภายนอกประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงประเด็นด้านภาษีศุลกากร การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ล่าช้า ประกอบกับความอ่อนแออย่างต่อเนื่องในภาคการก่อสร้าง" และเสริมว่า "ผลผลิตยานยนต์ลดลง สาเหตุหลักมาจากปริมาณรถยนต์สำเร็จรูป เช่น รถยนต์รุ่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรถยนต์สำหรับใช้งานเฉพาะทาง มีจำนวนลดน้อยลง" พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้ภาษีศุลกากร 25% กับรถยนต์นำเข้าตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตัวเลขผลผลิต
แต่เมื่อเทียบเป็นรายปี ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมในเดือนเม.ย. กลับเพิ่มขึ้น 0.4%
ด้านยอดค้าปลีกนั้นซบเซาในเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยยอดขายสินค้ากึ่งคงทน เช่น เสื้อผ้า ลดลง 2% เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่สินค้าคงทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ลดลง 1.4% และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ยอดค้าปลีกลดลงเล็กน้อย 0.1%
ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอ่อนตัวลงในเกือบทุกด้าน ยกเว้นภาคอุปกรณ์ขนส่งที่พุ่งขึ้น 9.9% เมื่อเทียบรายเดือน
ขณะเดียวกัน เม็ดเงินลงทุนในภาคก่อสร้างยังคงซบเซา โดยยอดสั่งสร้างโครงการใหม่ลดลง 3.1% จากเดือนก่อนหน้า นับเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10