ไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอล (Caixin/S&P Global) เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ (5 มิ.ย.) ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.1 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 50.7 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
ผลสำรวจของไฉซินระบุว่า ดัชนี PMI ภาคบริการได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์โดยรวมและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี อุปสงค์ในต่างประเทศหดตัวลงเป็นครั้งแรกในปีนี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้า
ข้อมูลดังกล่าวของไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอล สอดคล้องกับที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของจีนขยับขึ้นแตะระดับ 50.2 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 50.1 ในเดือนเม.ย.
อย่างไรก็ดี การขยายตัวที่รวดเร็วของภาคบริการจีนยังไม่สามารถชดเชยการหดตัวในภาคการผลิต โดยดัชนี PMI รวมภาคบริการและภาคการผลิตของจีนที่สำรวจโดยไฉซินนั้น ปรับตัวลงแตะระดับ 49.6 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 51.1 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนซึ่งไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอลรายงานเมื่ออังคาร (3 มิ.ย.) ระบุว่า ดัชนีปรับตัวลดลงแตะระดับ 48.3 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 50.4 ในเดือนเม.ย. นับเป็นการหดตัวลงครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ทั้งยังเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 32 เดือนด้วย
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 5.4% ในไตรมาส 1/2568 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวราว 5.1-5.2% ขณะที่รัฐบาลจีนยังคงเป้าหมายการเติบโตรายปีของเศรษฐกิจเอาไว้ที่ประมาณ 5% อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เตือนว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อาจจะส่งผลกระทบต่อแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของจีน