ข้อมูลจากสำนักคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน (Core Machinery Orders) ในวันนี้ (18 มิ.ย.) โดยพบว่า ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ยอดสั่งซื้อหดตัว 9.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เหลือมูลค่า 9.19 แสนล้านเยน (ประมาณ 6.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานดังกล่าว ซึ่งมีความผันผวนสูงและถือเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายในการลงทุนในอีก 6-9 เดือนข้างหน้านั้น นับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากยอดสั่งซื้อทั้งจากภาคการผลิตและนอกภาคการผลิตต่างก็พากันปรับตัวลง
ยอดสั่งซื้อจากภาคการผลิตลดลง 0.6% มาอยู่ที่ 4.566 แสนล้านเยน โดยกลุ่มที่ลดลงอย่างหนักคือเครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์การผลิตอเนกประสงค์
ด้านออร์เดอร์ยานยนต์และชิ้นส่วนร่วงหนักถึง 20.3% ขณะที่อุตสาหกรรมเหล็กกลับโตสวนทาง โดยพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 39.9%
ส่วนยอดสั่งซื้อนอกภาคการผลิต (ไม่นับเรือและสาธารณูปโภค) ก็ลดลงไป 11.8% เหลือ 4.708 แสนล้านเยน
ถึงแม้ตัวเลขรวมออกมาน่าผิดหวัง แต่สำนักคณะรัฐมนตรียังประเมินภาพรวมเหมือนเดิมว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร "เริ่มเห็นแววฟื้นตัวแล้ว" โดยให้เหตุผลว่า ถ้าดูค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 3 เดือนย้อนหลัง ตัวเลขยังคงเติบโตได้ 2.2% และยังอยู่ในแดนบวก