ผลสำรวจที่เปิดเผยในวันนี้ (23 มิ.ย.) ระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจของสหราชอาณาจักร (UK) ขยายตัวเล็กน้อยในเดือนมิ.ย. เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อใหม่เติบโตเป็นครั้งแรกของปีนี้ อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจมีการลดการจ้างงานในอัตราที่เร็วขึ้น และมีความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของ UK จาก S&P Global ซึ่งเป็นมาตรวัดเศรษฐกิจภาคเอกชน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.7 ในเดือนมิ.ย. จาก 50.3 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 50.5
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ภาคบริการซึ่งเป็นภาคส่วนหลักของเศรษฐกิจ UK มีการเติบโตเร็วที่สุดในรอบ 3 เดือน ส่วนกิจกรรมในภาคการผลิตหดตัวลงเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน แต่ก็เป็นการหดตัวในอัตราที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.
S&P Global ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดทำผลสำรวจระบุว่า รายงานดังกล่าวสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจราว 0.1% ในช่วงเม.ย.-มิ.ย. ซึ่งตรงกับประมาณการของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เกี่ยวกับอัตราการขยายตัวที่แท้จริงของเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ดัชนีย่อยของ PMI รวมในด้านการจ้างงาน ธุรกิจส่งออกใหม่ และผลผลิตในอนาคต ล้วนปรับตัวแย่ลงในเดือนมิ.ย. โดย S&P Global ระบุว่า ปัจจัยหลังสุดได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกที่เพิ่มสูงขึ้น
ดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ขยับขึ้นเหนือระดับ 50.0 ซึ่งเป็นเกณฑ์ชี้วัดการขยายตัว เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
อนึ่ง การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 12-19 มิ.ย. ซึ่งการสำรวจเริ่มต้นขึ้นหนึ่งวันก่อนที่อิสราเอลจะเริ่มโจมตีที่ตั้งต่าง ๆ ในอิหร่าน
ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับ BoE ในขณะที่ BoE กำลังจับตาดูการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคทั่วไปที่หวังว่าจะเป็นเพียงภาวะชั่วคราว
สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของ UK เพิ่มขึ้นเป็น 51.3 ในเดือนมิ.ย. จาก 50.9 ในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นของ UK เพิ่มขึ้นเป็น 47.7 ในเดือนมิ.ย. จาก 46.4 ในเดือนพ.ค.