สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานในวันนี้ (30 มิ.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.ของจีนอยู่ที่ระดับ 49.7 ซึ่งแม้ว่าปรับตัวขึ้นจากระดับ 49.5 ในเดือนพ.ค. แต่ดัชนีอยู่ที่ต่ำกว่าระดับ 50 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ส่วนดัชนี PMI นอกภาคการผลิตซึ่งรวมถึงภาคบริการและการก่อสร้าง ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 50.5 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 50.3 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนยังคงมีการขยายตัว
ผู้ประกอบการในภาคการผลิตของจีนได้รับผลกระทบจากสงครามราคาที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ท่ามกลางภาวะอุปทานที่อยู่ในระดับสูงและอุปสงค์ผู้บริโภคที่อ่อนแอ โดยสถานการณ์เหล่านี้ย่ำแย่ลงนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีศุลกากร ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ดี ตลาดคาดการณ์ว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตที่หดตัวอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้า
หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวในการประชุม Annual Meeting of the New Champions ครั้งที่ 16 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Summer Davos เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนจะใช้มาตรการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งจะทำให้จีนกลายเป็นมหาอำนาจด้านการอุปโภคบริโภคของโลก