ผลสำรวจของภาคเอกชนซึ่งเปิดเผยวันนี้ (1 ก.ค.) ชี้ว่า ราคาบ้านมือสองในประเทศจีนเดือนมิ.ย.ได้ปรับตัวลดลงในอัตราที่เร่งขึ้นกว่าเดิม อันเป็นเครื่องตอกย้ำถึงความอ่อนแอที่ยังคงฝังรากลึกอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งกำลังเผชิญวิกฤต แม้ว่ารัฐบาลจะได้ออกมาตรการสนับสนุนต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม
ผลสำรวจของ China Index Academy ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทวิจัยด้านอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ระบุว่า ราคาบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 0.75% ซึ่งเป็นการลดลงที่มากกว่าเดือนพ.ค.ซึ่งอยู่ที่ 0.71% และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ราคาได้ลดลงถึง 7.26% เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 7.24%
ขณะเดียวกัน ราคาบ้านใหม่ก็ปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอลง โดยในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 0.19% เทียบกับ 0.30% ในเดือนพ.ค.
ทางบริษัทให้ความเห็นว่า "ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐาน ... การจะทำให้ตลาดมีเสถียรภาพและฟื้นตัวได้นั้น ยังคงต้องการความพยายามด้านนโยบายเพิ่มเติมจากภาครัฐ"
ภาคอสังหาฯ ของจีนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักมาตั้งแต่ปี 2564 หลังจากที่ทางการได้ออกมาตรการควบคุมการกู้ยืมเงินที่มากเกินควรของบรรดาผู้พัฒนาอสังหาฯ การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดวิกฤตสภาพคล่องในบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ส่งผลให้เกิดปัญหาโครงการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ยอดขายบ้านตกต่ำ และการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มพูนขึ้น
ความพยายามที่จะฟื้นฟูภาคส่วนนี้มีทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยและออกมาตรการจูงใจต่าง ๆ สำหรับผู้ซื้อบ้าน อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงอ่อนแอ ประกอบกับปัญหาอุปทานล้นตลาดในบางเมือง ได้กลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้มาตรการเหล่านี้ไม่เกิดผลเท่าที่ควร
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนที่แล้ว บรรดาผู้นำของจีนได้ให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงนโยบายต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ ปรับปรุงอุปทาน และสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดอสังหาฯ