แคนาดาขาดดุลการค้าน้อยลงในพ.ค. แม้ส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลงต่อเนื่อง

ข่าวต่างประเทศ Friday July 4, 2025 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสถิติแห่งชาติของแคนาดา (Statscan) เปิดเผยว่า แคนาดาขาดดุลการค้าลดลงมาอยู่ที่ 5.9 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (4.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนพ.ค. หลังยอดส่งออกเพิ่มขึ้นและนำเข้าลดลง

ข้อมูลระบุว่า การส่งออกของแคนาดาเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากร่วงลง 11% ในเดือนเม.ย. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบสี่เดือนที่การส่งออกเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดี การส่งออกไปสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของแคนาดา ลดลง 0.9% ในเดือนพ.ค. โดยลดลงเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกัน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสองประเทศอันเนื่องมาจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

ข้อมูลแสดงให้เห็นว่า ยอดส่งออกไปสหรัฐฯ ในเดือนพ.ค. คิดเป็นสัดส่วน 68.3% ของการส่งออกทั้งหมดของแคนาดา ซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ โดยในปี 2567 แคนาดาส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ เฉลี่ยต่อเดือนที่ 75.9%

ส่วนการนำเข้าโดยรวมของแคนาดาลดลง 1.6% เป็นการลดลงเดือนที่สามติดต่อกัน โดยการนำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลง 1.2%

สำหรับในเดือนเม.ย. ยอดขาดดุลการค้าของแคนาดาพุ่งขึ้นทำสถิติที่ 7.6 พันล้านดอลลาร์แคนาดา จาก 2.3 พันล้านดอลลาร์แคนาดาในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในแคนาดา 25% และภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม 50% ด้านแคนาดาประกาศภาษีตอบโต้ ส่งผลให้การค้าระหว่างสองประเทศตึงเครียดเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ดังกล่าวดูเหมือนจะมีความคืบหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อทรัมป์ และมาร์ค คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา แสดงความมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าให้ได้ภายในวันที่ 21 ก.ค. โดยทั้งสองฝ่ายกลับมาเริ่มการเจรจากันอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ทรัมป์ได้ยุติการเจรจากับแคนาดาเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (27 มิ.ย.) เนื่องจากไม่พอใจที่แคนาดาจะเก็บภาษีบริการดิจิทัลกับบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ก่อนที่คาร์นีย์ได้ตัดสินใจยกเลิกมาตรการดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ