นักชอปชาวอังกฤษกลับมาจับจ่ายใช้สอยอย่างคึกคักในเดือนมิ.ย. โดยมีปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศที่ร้อนเป็นประวัติการณ์ ทำให้ยอดขายพัดลมและเสื้อผ้าฤดูร้อนพุ่งกระฉูด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหารที่แพงขึ้น ไม่ใช่เพราะคนซื้อของเยอะขึ้นอย่างเดียว
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (BRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รวบรวมข้อมูลจากห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า ยอดใช้จ่ายในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าเดือนพ.ค. ที่เติบโตเพียง 1.0% และถือเป็นการเติบโตสูงสุดเป็นอันดับสองของปีนี้
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ BRC กล่าวว่า "อุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ยอดขายพัดลมไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ขณะที่อุปกรณ์กีฬาและนันทนาการก็ได้รับอานิสงส์จากสภาพอากาศและการเริ่มต้นของการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน"
ทั้งนี้ อังกฤษเพิ่งเผชิญกับเดือนมิ.ย. ที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติอย่างละเอียดในปี พ.ศ. 2427 ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วสหราชอาณาจักรก็สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์เป็นอันดับสอง
การจับจ่ายที่ฟื้นตัวถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ค้าปลีก หลังจากข้อมูลทางการในเดือนพ.ค. ชี้ว่า ปริมาณยอดขายลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2566 นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจโดยรวมหดตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ค. ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
BRC ชี้ว่ายอดใช้จ่ายที่สูงขึ้น ส่วนหนึ่งสะท้อนถึงราคาอาหารที่แพงขึ้น โดยยอดใช้จ่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตพุ่งขึ้นถึง 4.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ร้านค้าที่ไม่ใช่อาหาร (Non-food) โตเพียง 2.2%
ตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น 3.7% ในรอบปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วง 12 เดือนสิ้นสุดเดือนมี.ค. 2567 ในทางตรงกันข้าม ราคาของสินค้าที่ไม่ใช่อาหารกลับปรับตัวลดลง 1.2%
เจ้าหน้าที่จากสถาบันการจัดจำหน่ายของชำ (IGD) ซึ่งร่วมจัดทำข้อมูล กล่าวว่า "การเติบโตของยอดขายยังคงถูกขับเคลื่อนโดยเงินเฟ้อเป็นหลัก ในขณะที่ปริมาณสินค้าที่ขายได้จริงยังคงถูกกดดัน"
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากธนาคารบาร์เคลย์ส (Barclays) ซึ่งเก็บข้อมูลจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตและเครดิตทั้งหมด กลับชี้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยรวมในเดือนมิ.ย. ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สวนทางกับเดือนพ.ค. ที่เพิ่มขึ้น 1.0%
ถึงกระนั้น ก็ยังมีสินค้าบางประเภทที่ขายดีเป็นพิเศษ เช่น เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งสะท้อนถึงยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นปี รวมถึงครีมกันแดดและยาแก้แพ้
หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบาร์เคลย์ส กล่าวว่า "ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังและพยายามรักษาเงินออมไว้ เราคาดว่าปัจจัยนี้จะทำให้การเติบโตของ GDP อยู่ในวงจำกัดไปจนถึงสิ้นปี ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงและความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งขึ้น จะขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้งในปีหน้า"