สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติของจีน (NIA) เปิดเผยในวันนี้ (16 ก.ค.) ว่า จำนวนชาวต่างชาติเดินทางเข้า-ออกจีน แตะ 38.05 ล้านครั้งในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 30.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี
รายงานระบุว่า การเดินทางเข้าจีนโดยไม่ต้องขอวีซ่ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีชาวต่างชาติ 13.64 ล้านคนเดินทางเข้าจีนผ่านช่องทางนี้ในช่วงครึ่งปีแรก คิดเป็นสัดส่วนถึง 71.2% ของจำนวนนักเดินทางต่างชาติทั้งหมด และเพิ่มขึ้นถึง 53.9% เมื่อเทียบรายปี
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศพบว่า มีการเดินทางเข้าและออกประเทศรวม 333 ล้านครั้งในช่วงเดือนครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบรายปี
ตัวเลขดังกล่าวแบ่งเป็นการเดินทาง 159 ล้านครั้งโดยผู้อยู่อาศัยในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.9% และอีก 136 ล้านครั้งโดยผู้อยู่อาศัยในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.2%
ล่าสุด จีนได้เพิ่มอินโดนีเซียในโครงการเดินทางผ่านแดนปลอดวีซ่าระยะเวลา 240 ชั่วโมง ทำให้ขณะนี้มีทั้งหมด 55 ประเทศที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
นโยบายนี้เปิดทางให้นักเดินทางจากประเทศเหล่านี้สามารถเดินทางเข้าสู่จีนที่จุดผ่านแดน 60 แห่งใน 24 มณฑล และพำนักอยู่ในจีนได้นานสูงสุด 240 ชั่วโมง หรือ 10 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า ก่อนเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม
นอกจากนี้ จีนยังได้ขยายข้อตกลงยกเว้นวีซ่าแบบฝ่ายเดียว โดยลงนามข้อตกลงร่วมกันกับอุซเบกิสถาน มาเลเซีย และอาเซอร์ไบจาน พร้อมขยายสิทธิ์ยกเว้นวีซ่าแบบฝ่ายเดียวเพิ่มเติมอีก 9 ประเทศ ได้แก่ บราซิล อาร์เจนตินา ชิลี เปรู อุรุกวัย ซาอุดีอาระเบีย โอมาน บาห์เรน และคูเวต