ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (24 ก.ค.) ชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีมีแนวโน้มลดลงในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากครัวเรือนชะลอการใช้จ่ายมากขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนและยืดเยื้อ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยตลาด GfK และสถาบันนูเรมเบิร์กเพื่อการตัดสินใจด้านตลาด (NIM) ปรับตัวลดลงอย่างเหนือความคาดหมายสู่ระดับ -21.5 จุด ในเดือนส.ค. จาก -20.3 จุดในเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ -19.2 จุด
"การฟื้นตัวของความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงต้องเลื่อนออกไปอีก เนื่องจากแนวโน้มการออมเงินของประชาชนกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง" จนแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งปีครึ่ง รอล์ฟ เบอร์เคิล นักวิเคราะห์ผู้บริโภคจาก NIM กล่าว "ปัจจัยหลักมาจากความไม่แน่นอนโดยรวม ความจำเป็นที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก และราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะราคาอาหาร"
ด้านดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจร่วงลงอย่างหนัก 10 จุด มาอยู่ที่ 10.1 จุด ในเดือนก.ค. หลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันมา 5 ครั้ง ยิ่งบั่นทอนความหวังที่จะได้เห็นการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปภายในปีนี้
อย่างไรก็ตาม ดัชนีคาดการณ์รายได้ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 โดยเพิ่มขึ้น 2.4 จุด แตะระดับ 15.2 จุด ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน โดยดัชนีดังกล่าวสะท้อนถึงความคาดหวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสถานะทางการเงินของครัวเรือนในอีก 12 เดือนข้างหน้า
สำหรับตัวชี้วัดความเต็มใจในการซื้ออยู่ที่ -9.2 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ -6.2 ในเดือนมิ.ย. โดยดัชนีดังกล่าวแสดงถึงความแตกต่างระหว่างคำตอบเชิงบวกและเชิงลบต่อคำถามที่ว่า "คุณคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ดีในการซื้อของชิ้นใหญ่หรือไม่"
นอกจากนี้ ตัวชี้วัดความเต็มใจในการออมอยู่ที่ 16.4 ในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 13.9 ในเดือนมิ.ย.
อนึ่ง ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในระหว่างวันที่ 3-14 ก.ค. 2568