ผลสำรวจล่าสุดที่เผยแพร่วันนี้ (5 ส.ค.) ชี้ว่า ภาคบริการของเยอรมนีเริ่มต้นครึ่งปีหลังด้วยสัญญาณบวก โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของเยอรมนีจาก HCOB ประจำเดือนก.ค. ได้ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน มาอยู่ที่ 50.6 จาก 49.7 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เบื้องต้นที่ 50.1
อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตดังกล่าวยังคงไม่สูงนักและต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ปัจจัยหนุนสำคัญของการขยายตัวครั้งนี้มาจากกำลังคนที่เพิ่มขึ้น การเปิดตัวบริการใหม่ ๆ และการได้ธุรกิจใหม่เข้ามา โดยเฉพาะยอดคำสั่งซื้อใหม่ที่กลับมาเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปี แม้จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
แม้ภาพรวมจะดีขึ้น แต่ภาคบริการยังเผชิญความท้าทาย โดยปริมาณแบ็กล็อกลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ขณะที่การจ้างงานขยายตัวในอัตราที่ชะลอที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี
ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของเยอรมนี ก็ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 50.6 ในเดือนก.ค. จาก 50.4 ในเดือนก่อนหน้า โดยภาคธุรกิจทั้งสองนี้คิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจเยอรมนี
ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ กล่าวว่า "การที่ยอดคำสั่งซื้อและธุรกิจส่งออกทั้งในภาคการผลิตและบริการปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย กำลังฉายภาพให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดจากภาวะซบเซาที่ยาวนาน" จึงคาดการณ์ได้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะกลับมาขยายตัวได้เล็กน้อยในไตรมาสที่ 3 หลังจากหดตัวลงในไตรมาสที่ 2