ผลสำรวจของธนาคารเวสต์แพก (Westpac) ร่วมกับสถาบันเมลเบิร์น (Melbourne Institute) ที่เปิดเผยในวันนี้ (19 ส.ค.) บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคออสเตรเลียปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในเดือนส.ค. หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปีนี้ ส่งผลให้แนวโน้มด้านการเงินและเศรษฐกิจมีทิศทางที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 5.7% ในเดือนส.ค. แตะระดับ 98.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2565 แม้ระดับที่ต่ำกว่า 100 ยังสะท้อนว่ากลุ่มผู้มีมุมมองเชิงลบมีจำนวนมากกว่ากลุ่มเชิงบวก แต่ความต่างระหว่างทั้งสองกลุ่มไม่มากนัก
การปรับตัวขึ้นนี้เกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% สู่ระดับ 3.60% และยังเปิดโอกาสสำหรับการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมอีกในปีนี้
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในทุกมาตรวัดของผลสำรวจ โดยดัชนีความคาดหวังด้านเศรษฐกิจในปีหน้าเพิ่มขึ้น 7.6% ขณะที่ดัชนีความคาดหวังใน 5 ปีข้างหน้าปรับขึ้น 5.4% ด้านการเงินครัวเรือนเทียบกับปีก่อนพุ่งขึ้น 6.2% และความคาดหวังใน 12 เดือนข้างหน้าปรับขึ้น 5.4%
ดัชนีที่วัดว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการซื้อที่อยู่อาศัยพุ่งขึ้น 10.5% แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีที่ 97.8 แม้ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 120 เนื่องจากข้อจำกัดด้านความสามารถในการจ่าย ขณะที่ดัชนีที่วัดว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการซื้อสินค้าขนาดใหญ่ภายในบ้านปรับตัวขึ้น 4.2% ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ค้าปลีก
แมทธิว ฮัสซัน หัวหน้าฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจมหภาคของออสเตรเลียจากเวสต์แพกกล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยดูเหมือนจะยิ่งเสริมความคาดหวังของผู้บริโภคว่า ดอกเบี้ยเงินกู้บ้านจะลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นโดยรวมปรับตัวดีขึ้น