กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ รายงานในวันนี้ (1 ก.ย.) ว่า ยอดส่งออกในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 1.3% แตะระดับ 5.84 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเดือนที่สาม แม้ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันก็ได้ปัจจัยหนุนจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ที่แข็งแกร่ง
ขณะที่ยอดนำเข้าลดลง 4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 5.189 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เกาหลีใต้เกินดุลการค้ามูลค่า 6.51 พันล้านดอลลาร์
คิม จอง-กวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนส.ค. เติบโตแข็งแกร่งเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกหลักสองรายการ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ และรถยนต์
ทั้งนี้ การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 27.1% ในเดือนส.ค. แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกรถยนต์ปรับตัวขึ้น 8.6% แตะที่ 5.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเมื่อเทียบกับเดือนส.ค. ของทุกปี
การส่งออกเรือพุ่งขึ้น 11.8% มาอยู่ที่ 3.14 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่หก ขณะที่การส่งออกสินค้าด้านการเกษตรและประมง เพิ่มขึ้น 3.2% แตะที่ระดับ 960 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดสำหรับเดือนส.ค.
สำหรับการส่งออกเครื่องสำอางของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 5.1% แตะที่ะรดับ 870 ล้านดอลลาร์ และการส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 5.6% แตะระดับ 1.29 พันล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. โดยยอดส่งออกสินค้าทั้งสองรายการถือเป็นตัวเลขสูงสุดสำหรับเดือนส.ค.
เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศ ยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลง 12% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ระดับ 8.74 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกเหล็ก รถยนต์ และเครื่องจักรลดลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
ส่วนการส่งออกไปยังจีนลดลง 2.9% แตะที่ระดับ 1.101 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากการส่งออกสินค้าหมวดต่าง ๆ ไปยังจีนชะลอตัวลง
อย่างไรก็ดี การส่งออกไปยังประเทศกลุ่มอาเซียนเพิ่มขึ้น 11.9% แตะระดับ 1.089 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเดือนที่สาม โดยได้แรงหนุนจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์และเรือที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง