ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักร (UK) กลับมาซบเซาอีกครั้งในเดือนส.ค. หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของ S&P Global/CIPS ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยมีสาเหตุหลักจากยอดสั่งซื้อใหม่ที่หดตัวลงอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้าและภาระภาษีในประเทศ
ผลสำรวจที่เผยแพร่วันนี้ (1 ก.ย.) ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของ UK เดือนส.ค. อยู่ที่ระดับ 47.0 ลดลงจาก 48.0 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นที่ 47.3 และนับเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
S&P Global ระบุว่า ปัจจัยลบทั้งอุปสงค์ที่อ่อนแอ มาตรการกีดกันทางการค้า และต้นทุนลูกค้าที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและภาษีเมื่อเดือนเม.ย. ได้ฉุดให้ยอดส่งออกและยอดสั่งซื้อใหม่โดยรวมหดตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 4 เดือน
ร็อบ ด็อบสัน ผู้อำนวยการของ S&P Global Market Intelligence กล่าวว่า เดือนส.ค. ที่ผ่านมา ยอดสั่งซื้อใหม่ของผู้ผลิต UK ลดลงอย่างฮวบฮาบ ทั้งคำสั่งซื้อรวมและอุปสงค์จากต่างประเทศต่างก็ลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 2 ปี ภาวะตลาดที่ซบเซา มาตรการภาษีของสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นของลูกค้าที่ถดถอย ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การทำสัญญาใหม่ ๆ มีน้อยลง
แม้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ผลิตจะขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน แต่ก็ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว โดยผู้ประกอบการบางส่วนหวังว่าตลาดโลกจะมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่กังวลเรื่องการขึ้นภาษีรอบใหม่และราคาพลังงานที่อาจสูงขึ้น ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีคลัง UK จะประกาศขึ้นภาษีอีกครั้งในการเสนองบประมาณปลายปีนี้
สำหรับสัญญาณบ่งชี้อื่น ๆ อัตราส่วนยอดสั่งซื้อใหม่ต่อสต๊อกสินค้าสำเร็จรูป ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงการผลิตในอนาคต แตะระดับต่ำสุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 ขณะเดียวกัน บริษัทต่าง ๆ ยังคงลดการจ้างงานต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 ซึ่งอาจสร้างความกังวลให้แก่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่หวั่นเกรงว่าตลาดแรงงานจะชะลอตัวรุนแรง
อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อด้านต้นทุนการผลิตกลับพุ่งขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขึ้นภาษีเมื่อเดือนเม.ย. และมีการผลักภาระบางส่วนไปให้ลูกค้า แม้ว่าราคาขายสินค้าจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอที่สุดในรอบ 6 เดือนก็ตาม