สำนักงานสถิติแห่งชาติมาเลเซีย รายงานในวันนี้ (11 ก.ย.) ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของมาเลเซียปรับตัวขึ้น 4.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในปีนี้ และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8% โดยนับเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมออกมาสูงกว่าการคาดการณ์
ข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมาเลเซีย และเป็นเหตุผลที่ให้ธนาคารกลางมาเลเซียตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.75% ในการประชุมเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ โดยการคงอัตราดอกเบี้ยในวันดังกล่าวมีขึ้นหลังจากธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนก.ค.
โมฮัด อูซีร์ มาฮิดีน หัวหน้านักสถิติประจำสำนักงานสถิติของมาเลเซียกล่าวว่า ภาคการผลิตที่มีการเติบโต 4.4% และภาคเหมืองแร่ที่ฟื้นตัว 4.3% เป็นปัจจัยหนุนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมให้ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตในอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการส่งออกซึ่งปรับตัวดีขึ้น
อย่างไรก็ดี มาฮิดีนกล่าวว่าการขยายตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 2.4% เมื่อเทียบกับระดับ 4% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ทางการมาเลเซียคาดการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศจะขยายตัวราว 4% - 4.8% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากระดับ 5.1% ในปี 2567 เนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ