S&P Global เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (23 ก.ย.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของฝรั่งเศสจาก HCOB ดิ่งลงมาอยู่ที่ 48.4 ในเดือนก.ย. จากระดับ 49.8 ในเดือนส.ค. ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการต่างอยู่ในภาวะหดตัว โดยเฉพาะสถานการณ์ในภาคการผลิตที่น่าเป็นห่วง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นร่วงลงมาอยู่ที่ 48.1 จาก 50.4 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ดัชนีผลผลิตภาคการผลิตดิ่งลงแตะ 45.9 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
ด้านดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นของฝรั่งเศสลดลงมาอยู่ที่ 48.9 จาก 49.8 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
ปัจจัยหลักที่ฉุดเศรษฐกิจคืออุปสงค์ของผู้บริโภคที่ซบเซาอย่างหนัก สะท้อนจากยอดคำสั่งซื้อใหม่โดยรวมที่ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกันแล้ว
ผู้ประกอบการในฝรั่งเศสต้องยอมปรับลดราคาสินค้าและบริการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค. แม้ว่าต้นทุนยังคงสูงขึ้นก็ตาม สะท้อนให้เห็นถึงผลจากการแข่งขันที่รุนแรงและอุปสงค์ที่อ่อนแอ
อย่างไรก็ตาม ยังมีสัญญาณบวกอยู่บ้าง โดยภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน แต่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจโดยรวมยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งมีปัจจัยจากความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นตัวฉุดความคาดหวัง