ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (24 ก.ย.) ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม (CCSI) ประจำเดือนก.ย. อยู่ที่ระดับ 110.1 ลดลง 1.3 จุด จากเดือนส.ค. ถือเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากความกังวลว่ามาตรการกำแพงภาษีใหม่ของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก
การปรับตัวลงครั้งนี้ถือเป็นการสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้นที่ดำเนินมา 5 เดือนติดต่อกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ดัชนีได้ไต่ระดับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2561 โดยได้รับอานิสงส์จากภาคการส่งออกที่แข็งแกร่งและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านงบประมาณเสริมของรัฐบาล
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 100 สะท้อนว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองเชิงบวกต่อภาวะเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มีมุมมองเชิงลบ
สำหรับความเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเคยร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 90 เมื่อเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ที่อดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอล ประกาศใช้กฎอัยการศึก ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวและกลับมายืนเหนือระดับ 100 ได้อีกครั้งในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ของ BOK ให้เหตุผลว่า "ความเชื่อมั่นที่ลดลงเป็นผลมาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นว่าการส่งออกจะชะลอตัวจากผลกระทบของกำแพงภาษีสหรัฐฯ ประกอบกับภาคการก่อสร้างที่ยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่อง"
ในส่วนของข้อตกลงด้านภาษีนั้น สหรัฐฯ ได้ยอมลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้เหลือ 15% จากเดิมที่เคยขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 25% เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน รัฐบาลเกาหลีใต้ตกลงที่จะจัดตั้งกองทุนมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับใช้ลงทุนในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียด และยังไม่มีการลงนามในข้อตกลงอย่างเป็นทางการ