ผลสำรวจของ S&P Global ที่เปิดเผยในวันนี้ (1 ต.ค.) บ่งชี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย. ลดลงสู่ระดับ 48.5 จาก 49.7 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 6 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. และยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
รายงานระบุว่า ปัจจัยสำคัญที่กดดันภาคการผลิตคืออุปสงค์จากตลาดหลักอย่างจีนที่อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่ยังคงส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ
ตัวเลขในรายละเอียดแสดงให้เห็นว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ลดลงในอัตราเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ส่วนผลผลิตก็ลดลงอย่างรุนแรงตามไปด้วย ขณะที่การจ้างงานชะลอตัวลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. สะท้อนว่า บริษัทต่าง ๆ เริ่มไม่มั่นใจและระมัดระวังมากขึ้น
แอนนาเบล ฟิดเดส รองผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์แห่ง S&P Global Market Intelligence ให้ความเห็นว่า "หากอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ภาคการผลิตของญี่ปุ่นจะยังคงเติบโตได้ยากในระยะสั้นนี้"
ทั้งนี้ ต้นทุนการผลิตปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสามเดือนจากราคาวัตถุดิบและค่าแรงที่สูงขึ้น แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตาม บริษัทต่าง ๆ ยังคงปรับขึ้นราคาขายเพื่อรักษาอัตรากำไร