ผลสำรวจจาก S&P Global ที่เปิดเผยในวันนี้ (3 ต.ค.) ชี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหราชอาณาจักร (UK) ประจำเดือนก.ย. ลดลงมาอยู่ที่ 50.8 จากเดิม 54.2 ในเดือนส.ค. ถือเป็นการขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย. สาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนเรื่องการปรับขึ้นภาษีในงบประมาณที่จะประกาศเดือนพ.ย. นี้ ทำให้ทั้งภาคธุรกิจและผู้บริโภคต่างชะลอการใช้จ่าย
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของ UK ก็ลดลงมาอยู่ที่ 50.1 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. เช่นกัน
ทิม มัวร์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ S&P ให้ความเห็นว่า "การเติบโตที่เร่งตัวขึ้นช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ดูท่าจะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ เพราะตอนนี้ความไม่แน่นอนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจได้กลับมากดดันภาคบริการอีกครั้ง" และเสริมว่า "ลูกค้าองค์กรหลายแห่งเลือกที่จะชะลอการตัดสินใจใช้จ่ายออกไปก่อน เพื่อรอดูงบประมาณช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในขณะที่ฝั่งครัวเรือนเองก็ยังไม่กล้าซื้อของชิ้นใหญ่ ๆ ในตอนนี้"
ด้านรัฐมนตรีคลัง ราเชล รีฟส์ มีกำหนดเสนองบประมาณในวันที่ 26 พ.ย. นี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าอาจมีการขึ้นภาษีหรือตัดลดงบประมาณ
ข้อมูลจากผลสำรวจยังชี้อีกว่า ธุรกิจภาคบริการลดการจ้างงานต่อเนื่องมา 12 เดือนแล้ว ส่วนต้นทุนของธุรกิจเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง
"สัญญาณที่ชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัวและแรงกดดันเงินเฟ้อลดลง น่าจะช่วยหนุนให้การพิจารณานโยบายของธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น" มัวร์กล่าวอนึ่ง ข้อมูลชุดนี้ออกมาในช่วงเวลาที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษยังมีความเห็นต่างกันอยู่ เกี่ยวกับทิศทางการลดดอกเบี้ยในอนาคต