ผลสำรวจรวบรวมโดย S&P Global ที่เปิดเผยในวันนี้ (24 ต.ค.) ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของเยอรมนีจาก HCOB พุ่งขึ้นแตะระดับ 53.8 สูงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีครึ่ง โดยได้แรงหนุนสำคัญจากภาคบริการที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ดัชนี PMI รวมดังกล่าวปรับตัวขึ้นจากระดับ 52.0 ในเดือนก.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 51.5 นับเป็นการยืนอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งระหว่างการเติบโตกับการหดตัว ได้ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
ภาคบริการถือเป็นตัวเอกของแนวโน้มนี้ โดยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นทะยานขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีที่ 54.5 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นยังคงมีทิศทางสวนทางกัน คือแม้จะขยับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 49.6 แต่ก็ยังคงอยู่ในภาวะหดตัว
ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) ให้ความเห็นว่า ตัวเลขโดยรวมถือเป็น "การเริ่มต้นไตรมาสสุดท้ายที่ดีเกินคาด" และสร้างเงื่อนไขที่ดีสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เดอ ลา รูเบีย ยังส่งสัญญาณเตือนว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจยังคงเปราะบาง เนื่องจากแนวโน้มในอนาคตกลับเต็มไปด้วย "ความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทั้งในมุมมองของผู้ให้บริการและภาคอุตสาหกรรม"
ผลสำรวจชี้ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ลดลงนี้มีสาเหตุจากหลายปัจจัยรุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่อ่อนแอ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูง
สัญญาณความเปราะบางที่ชัดเจนที่สุดปรากฏอยู่ในภาคการจ้างงาน โดยภาคเอกชนได้ปรับลดการจ้างงานเป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกันในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติการปรับลดตำแหน่งงานที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกช่วงปี 2551-2553