ผลสำรวจภาคเอกชนที่จัดทำโดย S&P Global ที่เปิดเผยในวันนี้ (21 พ.ย.) ชี้ กิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนยังคงขยายตัวอย่างมั่นคงในเดือนพ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากภาคบริการที่เติบโตเร็วที่สุดในรอบ 1 ปีครึ่ง สวนทางกับภาคการผลิตที่กลับเข้าสู่ภาวะหดตัวอีกครั้งจากปัญหาอุปสงค์อ่อนแอ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของยูโรโซนจาก HCOB อยู่ที่ระดับ 52.4 ในเดือนพ.ย. ลดลงเล็กน้อยจากจุดสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 52.5 ในเดือนต.ค. แม้ตัวเลขจะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 52.5 เล็กน้อย แต่ดัชนียังคงยืนเหนือระดับ 50.0 ซึ่งเป็นเกณฑ์แบ่งระหว่างการขยายตัวกับการหดตัวได้เป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน
เมื่อดูรายภาคส่วน ดัชนี PMI ภาคบริการขั้นต้นขยับขึ้นมาอยู่ที่ 53.1 ในเดือนพ.ย. จาก 53.0 ในเดือนต.ค. ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2567 และออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 52.8
ในทางกลับกัน ภาคการผลิตกลับสู่ภาวะหดตัวหลังจากประคองตัวอยู่ที่ระดับทรงตัวได้ในเดือนก่อนหน้า โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นต้นร่วงลงมาอยู่ที่ 49.7 ในเดือนพ.ย. ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 50.2 ความต้องการสินค้าที่ซบเซาส่งผลให้โรงงานต่าง ๆ จำเป็นต้องลดคนงานลงด้วยอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 7 เดือน
ด้านต้นทุน แม้ต้นทุนปัจจัยการผลิตโดยรวมจะพุ่งขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. แต่ภาคธุรกิจส่วนใหญ่เลือกที่จะแบกรับภาระไว้เอง ส่งผลให้การปรับขึ้นราคาขายสินค้าและบริการชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ปี